ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 พ.ค.66 ปิดที่ 1,541.38 จุด ลดลง 19.97 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 68,382.81 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 691.15 ล้านบาท
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองตลาดมีแรงขายทำกำไร รับข่าว ผลการเลือกตั้ง หลังจากนี้นักลงทุนยังจับตาการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะมีหน้าตาอย่างไร พรรคไหนจะได้เข้าร่วมรัฐบาล เพราะมีหลายสูตรที่เราต้องติดตาม และจะใช้เวลารวดเร็วแค่ไหนในการจัดตั้งรัฐบาล คาดว่าจะได้เห็นช่วงเดือน ก.ค.66 ต้องดูว่าจากนี้จะเป็นยังไงต่อ เพราะ ตลาดหุ้นต้องการความชัดเจน
หากการจัดตั้งรัฐบาลหากผ่านไปได้ด้วยดี การเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นเป็นเป้าหมายแรก ซึ่งจะเป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการจับจ่าย การลงทุน เช่น ค้าปลีก, ท่องเที่ยว, รับเหมาวัสดุก่อสร้าง, อสังหาริมทรัพย์ ด้านเทคนิคให้แนวรับไว้ที่ 1,540–1,530 จุด ส่วนแนวต้านระยะยาวอยู่ที่ 1,650 จุด
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ชี้ว่าตลาดยังต้องรอความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะการเลือกนายกรัฐมนตรีที่อาจต้องรอเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.ด้วย นอกจากนี้ ยังต้องรอการรับรองผลจาก กกต. ซึ่งมีระยะเวลายาวนานถึง 60 วัน
แนะกลยุทธ์ ลงทุนหุ้นการบริโภคในประเทศ ขนาดกลาง–เล็ก ที่มีผลตอบแทนดีไม่เชื่อมโยงการเมือง เช่น SCAP, SJWD, SAT, SUN เนื่องจากกลุ่มใหญ่อาจกังวลนโยบายแก้ไขการผูกขาดของรัฐบาลใหม่จากพรรคก้าวไกล ประเมินดัชนีมีแนวรับที่ 1,540 จุด แนวต้าน 1,570–1,580 จุด
อย่างไรก็ตาม ช่วง 2 เดือนข้างหน้านี้ อาจมีประเด็นนโยบายดอกเบี้ยของเฟดที่จะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย หากเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย แต่ระยะสั้นตลาดยังให้ความสำคัญกับการจัดตั้งรัฐบาลในประเทศมากกว่า
บล.ยูโอบี (ประเทศไทย) ให้เน้นลงทุนหุ้นที่ยังคงการเติบโตได้ดีด้วยตัวเองจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว คือกลุ่มค้าปลีก, การท่องเที่ยว, การบริโภคคาดว่ากรอบดัชนี มีแนวรับที่ 1,540 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,570-1,580 จุด ขณะที่การผ่อนคลายนโยบายการเงินของสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยบวกของตลาดต่อเนื่องช่วง พ.ค.-มิ.ย.66
อินเด็กซ์ 51