ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 พ.ค.66 ปิดที่ 1,564.66 จุด บวก 2.41 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 52,794.94 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,591.20 ล้านบาท
หุ้นไทยแกว่งกรอบแคบ ตลาดรอติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ และประเด็นเรื่องการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ประกอบกับตัวเลขมูลค่าการค้าจีนเดือน เม.ย.66 ที่ออกมาหดตัว
บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะกลยุทธ์การลงทุนเดือน พ.ค.66 มีปัจจัยการเมืองที่ต้องติดตาม โดยจากผลโพลล่าสุดคาดว่าเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และหากมีเสถียรภาพสูง มองตลาดจะตอบรับในเชิงบวก
ขณะที่ตัวเลข GDP ไตรมาส 1/66 ที่คาดออกมาฟื้นตัวช่วยหนุนความเชื่อมั่น นอกจากนี้ ผลตอบแทนเดือน เม.ย.ที่เป็นลบช่วยลดโอกาส Sell in May ปีนี้ลง ด้านผลประกอบการไตรมาส1/66 คาดว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ โดยเฉพาะฝั่งรายได้ ส่วน Margin จะฟื้นชัดขึ้นในไตรมาส 2/66 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ยังคงให้ SET Target ทั้งปีที่ 1,700 จุด โดยเลือกหุ้นเด่น เดือน พ.ค. ได้แก่ BA, BDMS, CPALL, ICHI และ TOA
ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองภาพรวมตลาดหุ้นเดือน พ.ค.66 มีโอกาสฟื้นตัว ประเมินกรอบแนวต้าน 1,580-1,600 จุด ส่วนแนวรับ 1,520 จุด มีปัจจัยหนุนจาก 2 ปัจจัยสำคัญ คือธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย และผลการเลือกตั้งจะช่วยหนุนตลาดตอบรับในเชิงบวก ซึ่งตามสถิติหลังเลือกตั้งดัชนีหุ้นจะปรับขึ้น 3-5% ในช่วง 1 เดือนแรก แต่ยังขึ้นกับปัจจัยการจัดตั้งรัฐบาลว่าทำได้เร็วแค่ไหน ทั้ง 2 ปัจจัยนี้ ยังคาดว่าจะช่วยหนุนไม่ให้เกิด Sell in May
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นที่มีผลประกอบการดีต่อเนื่อง จากการบริโภคในประเทศ และอานิสงส์การเลือกตั้ง รวมถึงมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวคือคำนวณเข้าดัชนี MSCI เช่น MAKRO, SCAP, OSP!!
ด้าน บล.ไอร่า แนะกลยุทธ์การลงทุนเดือน พ.ค. แนะนำหุ้นพื้นฐานดีที่อิงการเติบโตเศรษฐกิจ เช่น ธนาคารพาณิชย์ซึ่งผลดำเนินงานไตรมาส 1/66 ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าตลาดคาดราว 7% และแนวโน้มไตรมาส 2/66 มีโอกาสโตต่อ จากทิศทางอัตราดอกเบี้ยยังปรับขึ้น และปัญหาหนี้เสียลดลง
หุ้นเด่น ได้แก่ KBANK, BBL, SCB, TTB, KTB, ส่วนกลุ่มค้าปลีกทิศทางกำไรดีขึ้นต่อเนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวดี และการเลือกตั้งที่มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา MAKRO, CPALL, BJC!!
อินเด็กซ์ 51