เปราะบาง!!

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เปราะบาง!!

Date Time: 25 เม.ย. 2566 05:11 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 24 เม.ย.66 ปิดที่ 1,557.87 จุด ลดลง 0.49 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 35,491.29 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 681.55 ล้านบาท

Latest

เปิดพอร์ตหุ้น หมอบุญ วนาสิน จากผู้ก่อ THG เหลืออันดับที่ 11 สู่หมายจับฉ้อโกงกู้เงิน 8 พันล้าน

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 24 เม.ย.66 ปิดที่ 1,557.87 จุด ลดลง 0.49 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 35,491.29 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 681.55 ล้านบาท

“อาภาภรณ์ แสวงพรรค” ผอ.บริหาร ฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประเมินภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังผันผวน ระยะสั้นมีปัจจัยหนุนจากเงินสะพัดจากการหาเสียงเลือกตั้ง ราว 1-1.2 แสนล้านบาท ประกอบกับภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง และยังได้ปัจจัยบวกจากแนวคิดตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จะเสนอกระทรวงการคลัง นำกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กลับมาใช้เพื่อให้สิทธิประโยชน์ภาษี กระตุ้นให้เกิดการลงทุน

แต่ระยะกลางและระยะยาว ตลาดหุ้นไทยยังเปราะบาง มีหลายปัจจัยลบรุมเร้า เช่น ปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินในสหรัฐฯและยุโรป ที่ทำให้ภาคธุรกิจและครัวเรือนเข้าถึงสินเชื่อได้ยากขึ้น และปัญหาเงินเฟ้อ ถ้าลดลงช้าจะทำให้ดอกเบี้ยทรงตัวในระดับสูงนานกว่า คาดทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯและยุโรปชะลอตัว และเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะต่อไป

ซึ่งความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกจะกระทบต่อการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทยตามไปด้วย นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงจากปัญหาประเทศฐานะการคลังที่อ่อนแอ มีหนี้สินอยู่ในระดับสูง ต้องเผชิญภาระดอกเบี้ยจ่ายมากในช่วงดอกเบี้ยแพง รวมทั้งปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยืดเยื้อ และโรคระบาด

ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยแบบ K-Curve และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว อาจส่งผลต่อความเสี่ยง NPL และการตั้งสำรองสูงในระบบสถาบันการเงิน รวมถึงต้องติดตามการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งว่าจะใช้เวลามากกว่าคาดหรือไม่ ถ้าใช้เวลานาน จะทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง การลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งจากภาครัฐและเอกชนล่าช้า นอกจากนี้ การขึ้น-ลงของหุ้น DELTA ก็มีผลต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของดัชนี ที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวน

ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือผลเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาล ราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ และทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรป จีน อาเซียน และไทย สำหรับกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ ควรเน้นเก็งกำไรระยะสั้น ส่วนการซื้อลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะให้รอสะสมหุ้นพื้นฐานดีจังหวะราคาหุ้นอ่อนตัว

สำหรับ 7 ธีมเล่นสั้น และลงทุนยาว ประกอบด้วย 1.ธีมหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยใกล้จะถึงจุดสูงสุด (Peak) 2.ธีมราคาก๊าซ & ราคาถ่านหินร่วงแรง หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์คือ กลุ่มโรงไฟฟ้าวัสดุก่อสร้าง บรรจุภัณฑ์ 3.ธีมท่องเที่ยวฟื้นตัว 4.ธีมเงินสะพัดจากการหาเสียงเลือกตั้ง 5.ธีมหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศแปรปรวน (Climate Change) 6.ธีมสังคมสูงวัย 7.ธีมความปลอดภัยทางไซเบอร์.

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ