ความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ด้านการลงทุนทั่วโลกในช่วงไตรมาสที่ 1 (1ม.ค. – 31 มี.ค.) ของปี 2566 ที่ผ่านมาพบว่ามีความน่าสนใจอย่างมาก เมื่อสินทรัพย์ดิจิทัล อย่าง Bitcoin และ Ethereum ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยทำสถิติสูงถึง 70% แม้จะเต็มไปด้วยปัจจัยกดดันทั้งการถดถอยของเศรษฐกิจโลก และการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ แต่ดูเหมือนว่าราคาสินทรัพย์เหล่านี้จะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ในขณะที่ผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยยังติดลบ
นายเอกราช ศรีศุภวิชากิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาดิจิทัลและออนไลน์ บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนดีมาก โดยเฉพาะในด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้ง Bitcoin และ Ethereum แม้ว่าสภาวะของเศรษฐกิจโลกโดยรวมจะดูไม่ดีก็ตาม โดยส่วนหนึ่งเกิดจากราคาที่ปรับตัวลดลงมาแรง ทำให้มีเงินทุนบางส่วนเข้าเก็บถือลงทุน
แม้ที่ผ่านมาจะมีความกังวลในปัญหาเรื่องการถดถอยทางเศรษฐกิจของทั่วโลก ทำให้หลายคนเลือกที่จะไม่ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง แต่สถานการณ์การลงทุนพบว่า ราคาสินทรัพย์เสี่ยงไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล หุ้นสหรัฐฯ หรือหุ้นเอเชียในหลายประเทศ ราคากลับไม่ลดลง ในช่วงที่มีปัจจัยรุมเร้า อาจสะท้อนว่าราคาได้อยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดแล้ว เกิดเม็ดเงินลงทุนบางส่วนเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
สำหรับความเคลื่อนไหวในด้านเศรษฐกิจโลกหลังจากนี้ มองว่าตลาดได้ตอบรับข่าวเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกไปแล้ว ในขณะเดียวกันเศรษฐกิจในหลายประเทศเริ่มฟื้นตัว โดยเทรนด์การลงทุนหลังจากนี้ เชื่อว่าเรายังสามารถเกาะกระแสกับการฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยงได้ โดยมองโอกาสเข้าลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ แม้ว่าดัชนีดาวโจน์จะไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น แต่หากดูในหุ้นรายตัวหลายบริษัทราคาบวกมากกว่าเท่าตัว ดังนั้นเป็นโอกาสที่จะเข้าลงทุนได้
รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นเหรียญหลัก ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin หรือ Ethereum ที่ราคาเริ่มยืนนิ่งในช่วงปลายปีก่อน และเริ่มมีแรงซื้อเข้ามาสะสมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากนี้มองว่า ยังสามารถเข้าลงทุนตามแรงซื้อที่เกิดขึ้นได้ แต่นักลงทุนต้องมีการป้องกันความเสี่ยงด้วยการตั้งตัดขาดทุน หรือ cut loss