เทียบหมัดต่อหมัด แม็คโครและบิ๊กซีเมื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นใครน่าสนใจกว่ากัน

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เทียบหมัดต่อหมัด แม็คโครและบิ๊กซีเมื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นใครน่าสนใจกว่ากัน

Date Time: 30 มี.ค. 2566 14:16 น.

Video

บุกโรงงาน PANDORA ช่างไทยผลิตจิวเวลรี่ แบรนด์โลกแสนล้าน | On The Rise

เป็นกระแสอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา หลังจากบริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BRC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ตามแผนปรับโครงสร้างธุรกิจ ได้รับมติอนุมัติจากบอร์ดเรื่องแผนการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และการนำหุ้นสามัญของ BRC เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ทำให้ BRC จะเป็นหนึ่งในหุ้นรีเทลที่สร้างความตื่นเต้นให้กับนักลงทุน แต่ในขณะเดียวกันในตลาดหุ้นก็มีหุ้นรีเทลที่ใกล้เคียงกันอย่าง บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ที่เทรดอยู่ในปัจจุบัน

ทีม #ThairathMoney ได้รวบรวมข้อมูลด้านผลประกอบการ กำไรสุทธิ จำนวนสาขา และฐานลูกค้าในมือของทั้งบริษัทบิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BRC และบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO เพื่อให้นักลงทุนได้เปรียบเทียบกันหมัดต่อหมัดว่า เมื่อ BRC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว หุ้นของบริษัทไหนจะน่าสนใจกว่ากัน แต่อย่างไรก็ดี MAKRO ก็ยังมีข้อได้เปรียบด้านขนาดธุรกิจและสาขา เนื่องจากในงบการเงินมีการรวมโลตัสเข้าไปด้วย

บิ๊กซี ลูกค้า 18 ล้านราย ฐานรายได้ 1 แสนล้านบาท

ปัจจุบัน BRC มีสินทรัพย์รวม 336,833 ล้านบาท มีรายได้รวม 113,573 ล้านบาท กำไรสุทธิรวม 6,757 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีสาขาภายใต้แบรนด์ “บิ๊กซี” ในพอร์ตทั้งหมด 1,810 สาขา แบ่งเป็น Big C Mini 1,449 สาขา, Hypermarket 154 สาขา, ร้านยา Pure 146 สาขา และ Big C Supermarket 61 สาขา และมีฐานลูกค้าผ่านบัตรสมาชิกบิ๊กพอยต์กว่า 18 ล้านราย มีลูกค้าทำธุรกรรมผ่านเครือข่ายร้านค้าปลีกหลากหลายรูปแบบ (Multi-format) ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่

MAKRO มี Lotus’s ตัวช่วย

ด้านบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ประกอบธุรกิจค้าส่งภายใต้ชื่อ แม็คโคร ในประเทศไทยและต่างประเทศ และจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้แก่ลูกค้าที่เป็นสมาชิกบัตรแม็คโคร ซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจขนาดกลางและเล็ก รวมทั้งร้านค้าปลีกและกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร ตลอดจนกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระและสถาบันต่างๆ และธุรกิจฟูดเซอร์วิสนำเข้าและจำหน่ายอาหารแช่แข็งและอาหารแช่เย็น ร้านอาหารและร้านค้าปลีกขนาดเล็ก อีกทั้งบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจค้าปลีกและให้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าภายใต้ชื่อ โลตัส ในประเทศไทยและต่างประเทศ

ปัจจุบัน MAKRO มีสินทรัพย์รวม 548,643.23 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการปี 2565 ล่าสุด บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 469,131.44 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,696.90 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีสาขาในพอร์ตทั้งหมด 2,805 สาขา แบ่งเป็นสาขาภายใต้แบรนด์ “แม็คโคร” ทั้งหมด 162 สาขา และสาขาภายใต้แบรนด์ “โลตัส” ทั้งหมด 2,643 สาขา เช่น Lotus’s Hypermarkets, Lotus’s Supermarkets และ Lotos’s go fresh โดยมีฐานลูกค้าราว 30 ล้านคน จากสมาชิกของ Makro และ My Lotus’s.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ