ตลท.ชี้ตลาดหุ้นโอเวอร์รีแอค ทำหุ้นร่วงเกือบ 50 จุด ชี้ภาคการเงินไทยแข็งแกร่ง

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ความผันผวนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวันนี้ (14 มี.ค. 2566) SET Index ร่วงลงกว่า 49.18 จุด หรือลดลง 3.13% จากเมื่อวาน มาอยู่ที่ 1,523.89 จุด เป็นผลจากราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ต่างพากันปรับลดลง เนื่องด้วยความกังวลผลกระทบจากกรณีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ซึ่งมองว่าไม่เก่ียวข้องกับปัญหาวิกฤติธนาคารในต่างประเทศ

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาค ส่วนหุ้นกลุ่มที่ราคาปรับตัวลดลงมาแรงในวันนี้ ไม่ได้เป็นหุ้นที่เกี่ยวกับด้านการเงิน แต่เป็นหุ้นกลุ่มพลังงาน, การค้า และอิเล็กทรอนิกส์ จากการที่ทั่วโลกมองว่าเศรษฐกิจที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้เร็วอาจฟื้นตัวได้ช้าลงจากปัจจัยกดดันเรื่องดอกเบี้ย รวมถึงสภาพคล่องที่ลดลง

ขณะเดียวกันเหตุการณ์ของธนาคารที่มีการปิดตัวในต่างประเทศ จะเห็นได้ว่าทางการสหรัฐฯ และอังกฤษมีนโยบายที่ออกมาอย่างเข้มแข็งและเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทั้งการประกันเงินฝากในฝั่งของสหรัฐฯ และการเข้าซื้อธนาคารในฝั่งของอังกฤษ

ดังนั้น การที่ดัชนี SET Index ปรับตัวลดลงแรงวันนี้ มองว่าเป็นการ “โอเวอร์รีแอค” ของตลาด ซึ่งอยากให้นักลงทุนติดตามข้อมูลและพิจารณาความสมเหตุสมผล เนื่องจากพบว่ากลุ่มนักลงทุนที่มีการขายสุทธิเป็นกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน ในขณะที่วันนี้นักลงทุนรายย่อยเข้าซื้อสุทธิรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ดี สำหรับคำถามจากผู้สื่อข่าว ในเรื่องการขาดไปของกองทุน LTF ทำให้ไม่มีเม็ดเงินในการพยุงตลาดหุ้นนั้น มองว่าที่ผ่านมาพอไม่มีมาตการดังกล่าวก็ทำให้ขาดโอกาสการลงทุนของนักลงทุน ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์จะมีการหารือร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) ซึ่งต้องหาแนวทางเข้ามาช่วยในส่วนนี้ต่อไป

ด้าน ดร.ศรพล ตุลยเสภียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ธนาคารต่างประเทศปิดตัวลงเป็นปัจจัยเฉพาะของธนาคารนั้นๆ ไม่ใช่ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มธนาคารไทยโดยภาพรวม อีกทั้งมาตรการจัดการทำได้ดีและรวดเร็วซึ่งทำให้วิกฤตินี้ไม่ลามออกไปยังกลุ่มธุรกิจอื่นๆ

ทั้งนี้ยังต้องติดตามต่อว่าจะมีมาตรการจากภาครัฐเพิ่มเติม หรือมีการปิดตัวของธนาคารอื่นอีกหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีมองว่ากลุ่มธนาคารในไทยยังแข็งแกร่ง ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้แถลงไปก่อนหน้านี้ว่ามี Capital base เพียงพอที่จะซัพพอร์ต ประกอบกลุ่มธนาคารในประเทศไทยมี Deposit base และ Asset Base กระจายในหลายกลุ่มธุรกิจ

นอกจากนี้ยังเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นจากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปวันนี้ เริ่มสื่อให้เห็นว่าไม่ได้มีความตื่นตระหนกเท่ากับเมื่อวานจากสถานการณ์ที่คลี่คลายแล้ว.