ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 1 มี.ค.66 ปิดที่ 1,619.98 จุด ลดลง 2.37 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 59,129.23 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,017.42 ล้านบาท
บล.ทรีนีตี้ ประเมิน SET Index เดือน มี.ค. เคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,690 จุด โดยต้องติดตามการอ่อนค่าของเงินบาทต่อ หลังแบงก์ชาติรายงานตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ม.ค.66 ขาดดุลที่ระดับ 2 พันล้านเหรียญฯแย่กว่าตลาดคาดการณ์ แม้ดุลบริการจะเกินดุลจากรายรับภาคท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถชดเชยดุลการค้าที่กลับมาขาดดุลอีกครั้ง
ขณะที่ยังต้องจับตาการเมือง ทั้งการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญต่อการแบ่งเขตเลือกตั้งในวันที่ 3 มี.ค.นี้ และการประกาศยุบสภาของนายกรัฐมนตรี ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 29 มี.ค. ประเมินว่า ขณะนี้ตลาดยังไม่ได้รับรู้ต่อการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้มากนัก หาก กนง.ตัดสินใจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ อาจเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นผ่านปรากฏการณ์ PE Contraction SCB-SPALI-KBANK-MINT-AP
ด้าน บล.เอเซีย พลัส ประเมิน SET Index เดือนนี้แกว่งในกรอบ 1,600-1,670 จุด ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญแรงกดดัน ทั้งการเติบโตของ GDP ไตรมาส 4 ปี 65 ที่ช้ากว่าคาด ขยายตัวเพียง 1.4% ถือว่าน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่การประกาศงบการเงินบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4 ปี 65 ต่ำกว่าคาด นำไปสู่การปรับลดประมาณการกำไรปี 66 ลงต่อเนื่องในช่วงเดือนนี้
เชื่อว่าเงินต่างชาติ (Fund Flow) มีโอกาสชะลอการไหลออก หลังเดือน ก.พ.ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยหนัก 4.3 หมื่นล้านบาทหากมีประเด็นบวกเข้ามาหนุน เช่น ความชัดเจนในการยุบสภา หรือ กนง.ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรือเลื่อนเวลาขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 29 มี.ค.นี้ออกไป แนะนำหุ้นน่าลงทุน IVL-JMT-BLA- BGRIM-AP-CRC-CBG
ส่วน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมิน SET Index เดือนนี้แกว่งช่วง 1,600-1,670 จุด โดยที่ผ่านมา สินทรัพย์เสี่ยงได้รับแรงกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อสหรัฐฯ และอัตราดอกเบี้ยนโยบาย Fed ที่เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่องในสหรัฐฯ ทำให้กระแสเงินต่างชาติไหลออกในระยะสั้น ขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียนไทยช่วงไตรมาส 4 ปี 65 ที่ต่ำกว่าคาด ทำให้เกิด Downside ต่อประมาณการ EPS ปี 66 และ SET Target ปัจจุบันที่ 1,750 อย่างไรก็ตาม มองจังหวะปรับฐานของดัชนี เป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นเมื่ออ่อนตัว สำหรับภาพการลงทุนระยะยาว
แนะนำหุ้นเด่น BEYOND-AAV-M-ASW-NSL!!
อินเด็กซ์ 51