สิงห์ เอสเตท เผยปี 65 รายได้โตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 12,530 ล้านบาท กำไรสุทธิ 490 ล้านบาท ปลื้มยอดขายบ้านศิรนินทร์เกินเป้า โรงแรมฟื้นตัวเร็ว ล่าสุดเตรียมปันผล 0.02 บาทต่อหุ้น
นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S กล่าวว่า ผลประกอบการปี 65 บริษัทมีรายได้กว่า 12,530 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 490 ล้านบาท โดยเราพร้อมจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้น 0.02 บาทต่อหุ้น
โดยในปี 2565 บริษัทฯ ปรับกลยุทธ์ให้ตอบสนองต่อสถานการณ์ตลาดและกระตุ้นการสร้างรายได้จากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้รายได้สามารถสร้าง New High ในปีที่ผ่านมา สำหรับกลุ่มธุรกิจที่พักอาศัยประเภทบ้านแนวราบ มีผลงานโดดเด่นสร้างยอดขายให้เติบโตอย่างรวดเร็ว
หลังใช้เวลาเพียง 1 ปี ในการปั้นโครงการใหม่ออกสู่ตลาดและเปิดตัวในปีที่ผ่านมา เนื่องจากลูกค้าให้การยอมรับในคุณภาพและเชื่อมั่นในมาตราฐานของสิงห์ เอสเตท ตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นผู้นำในการพัฒนาบ้าน Luxury อย่างแท้จริง
นำโดยโครงการศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ มีมูลค่าโครงการกว่า 2,900 ล้านบาท ที่เปิดปี 65 ด้วยยอดโอนกรรมสิทธิ์กว่า 830 ล้านบาท หรือสูงถึง 28% หลังเปิดโครงการได้เพียง 2 เดือน
นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้นสู่ 8,693 ล้านบาท หรือเติบโตเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2564 ซึ่งมาจากการใช้กลยุทธ์ที่มีความหลากหลาย ทั้งในเชิงภูมิศาสตร์ที่ตั้ง ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากหลากหลายภูมิภาค การบริหารพอร์ตอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งเชิงการกำหนดราคา
การทำการตลาดเชิงรุกและการเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยเฉพาะตลาดที่มีกำลังซื้อ ควบคู่กับการปรับปรุงสินทรัพย์ให้ตอบโจทย์กระแสการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ใหม่ๆ ส่งผลสำเร็จต่อการปรับเพิ่มอัตราค่าห้องพักต่อคืน (ADR) ในปี 2565 ของโรงแรมในหลายประเทศ เช่น สาธารณรัฐมัลดีฟส์ และสหราชอาณาจักร ให้เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า สามารถสร้างรายได้อยู่ที่ 1,014 ล้านบาทปรับตัวดีขึ้น 5% ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับเพิ่มอัตราค่าเช่าขึ้นได้ แม้จะอยู่ระหว่างสถานการณ์ที่ท้าทาย พร้อมกับการเปิดพื้นที่ค้าปลีกบางส่วนในโครงการ S-OASIS ที่ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งจะมีการเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบในไตรมาส 2 ของปี 2566
รวมถึงธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานได้มีความก้าวหน้าตามแผน โดยรับรู้รายได้เป็นปีแรกจากการขายและการโอนที่ดินของนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง (S-Angthong) รวมมูลค่า 198 ล้านบาท.