สิงห์ เอสเตท เผยปี 65 รายได้เติบโต 12,530 ล้าน กำไรสุทธิ 490 ล้าน

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

สิงห์ เอสเตท เผยปี 65 รายได้เติบโต 12,530 ล้าน กำไรสุทธิ 490 ล้าน

Date Time: 27 ก.พ. 2566 16:05 น.

Video

บิทคอยน์ VS เงินในกระเป๋าเกี่ยวกันยังไง ? | Digital Frontiers

Summary

  • สิงห์ เอสเตท เผยปี 65 รายได้โตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 12,530 ล้านบาท กำไรสุทธิ 490 ล้านบาท ปลื้มยอดขายบ้านศิรนินทร์เกินเป้า โรงแรมฟื้นตัวเร็ว ล่าสุดเตรียมปันผล 0.02 บาทต่อหุ้น

Latest


สิงห์ เอสเตท เผยปี 65 รายได้โตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 12,530 ล้านบาท กำไรสุทธิ 490 ล้านบาท ปลื้มยอดขายบ้านศิรนินทร์เกินเป้า โรงแรมฟื้นตัวเร็ว ล่าสุดเตรียมปันผล 0.02 บาทต่อหุ้น

นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S กล่าวว่า ผลประกอบการปี 65 บริษัทมีรายได้กว่า 12,530 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 490 ล้านบาท โดยเราพร้อมจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้น 0.02 บาทต่อหุ้น

โดยในปี 2565 บริษัทฯ ปรับกลยุทธ์ให้ตอบสนองต่อสถานการณ์ตลาดและกระตุ้นการสร้างรายได้จากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้รายได้สามารถสร้าง New High ในปีที่ผ่านมา สำหรับกลุ่มธุรกิจที่พักอาศัยประเภทบ้านแนวราบ มีผลงานโดดเด่นสร้างยอดขายให้เติบโตอย่างรวดเร็ว

หลังใช้เวลาเพียง 1 ปี ในการปั้นโครงการใหม่ออกสู่ตลาดและเปิดตัวในปีที่ผ่านมา เนื่องจากลูกค้าให้การยอมรับในคุณภาพและเชื่อมั่นในมาตราฐานของสิงห์ เอสเตท ตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นผู้นำในการพัฒนาบ้าน Luxury อย่างแท้จริง

นำโดยโครงการศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ มีมูลค่าโครงการกว่า 2,900 ล้านบาท ที่เปิดปี 65 ด้วยยอดโอนกรรมสิทธิ์กว่า 830 ล้านบาท หรือสูงถึง 28% หลังเปิดโครงการได้เพียง 2 เดือน

นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้นสู่ 8,693 ล้านบาท หรือเติบโตเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2564 ซึ่งมาจากการใช้กลยุทธ์ที่มีความหลากหลาย ทั้งในเชิงภูมิศาสตร์ที่ตั้ง ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากหลากหลายภูมิภาค การบริหารพอร์ตอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งเชิงการกำหนดราคา

การทำการตลาดเชิงรุกและการเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยเฉพาะตลาดที่มีกำลังซื้อ ควบคู่กับการปรับปรุงสินทรัพย์ให้ตอบโจทย์กระแสการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ใหม่ๆ ส่งผลสำเร็จต่อการปรับเพิ่มอัตราค่าห้องพักต่อคืน (ADR) ในปี 2565 ของโรงแรมในหลายประเทศ เช่น สาธารณรัฐมัลดีฟส์ และสหราชอาณาจักร ให้เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า สามารถสร้างรายได้อยู่ที่ 1,014 ล้านบาทปรับตัวดีขึ้น 5% ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับเพิ่มอัตราค่าเช่าขึ้นได้ แม้จะอยู่ระหว่างสถานการณ์ที่ท้าทาย พร้อมกับการเปิดพื้นที่ค้าปลีกบางส่วนในโครงการ S-OASIS ที่ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งจะมีการเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบในไตรมาส 2 ของปี 2566

รวมถึงธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานได้มีความก้าวหน้าตามแผน โดยรับรู้รายได้เป็นปีแรกจากการขายและการโอนที่ดินของนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง (S-Angthong) รวมมูลค่า 198 ล้านบาท.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ