นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ผลสำรวจ เดือน ม.ค.66 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 160.07 เพิ่มขึ้น 31.5% จากเดือนก่อนเข้าสู่เกณฑ์ “ร้อนแรงอย่างมาก” นักลงทุนมองว่าการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด ตามด้วยเงินทุนไหลเข้าและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ส่วนปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ความขัดแย้งระหว่างประเทศ นโยบายการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) และการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากการขายหลักทรัพย์
โดยความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคลและนักลงทุนต่างประเทศ ปรับขึ้นสู่เกณฑ์ “ร้อนแรงอย่างมาก” ขณะที่กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์และสถาบันในประเทศ ปรับขึ้นอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ ท่องเที่ยวและสันทนาการ ธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือกระดาษและวัสดุการพิมพ์ “พบว่าความเชื่อมั่นนักลงทุนทุกกลุ่มปรับเพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนบุคคลปรับเพิ่ม 29.8% กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์เพิ่ม 60.4% สถาบันในประเทศเพิ่ม 42.1% และนักลงทุนต่างชาติปรับเพิ่ม 28.0%”
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามได้แก่ ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นจากเงินเฟ้อยังอยู่สูงกว่าเป้าหมายของ FED จึงไม่น่ามีการลดดอกเบี้ยปี 66 แนวโน้มการเลิกจ้างงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์โลกและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ส่วนปัจจัยในประเทศคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ได้อานิสงส์จากนักท่องเที่ยวจีน การขยายตัวของการบริโภคเอกชน การส่งออกที่จะชะลอลง โอกาสในการเป็นฐานผลิตหลังหลายประเทศย้ายออกจากจีน รวมถึงการยุบสภาและผลการเลือกตั้งซึ่งจะสะท้อนทิศทางเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง”.