ความเคลื่อนไหวของหุ้น บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS พบว่า 2 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เข้าซื้อหุ้นของบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยนับจากต้นปีจนถึง 8 ก.พ. 66 เข้าซื้อหุ้นรวมกันแล้วกว่า 26.67 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 5.95 ล้านบาท
โดย นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 เข้าซื้อหุ้นทั้งสิ้น 5 ครั้ง รวม 12 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 389 ล้านบาท ในขณะที่ นางสาวปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการบริหารบริษัท และ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 3 เข้าซื้อหุ้น 15 ครั้ง จำนวน 6.8 ล้านหุ้น มูลค่ามากกว่า 205 ล้านบาท
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แนวโน้มระยะยาวไปได้ดี โดยคนไข้ต่างชาติยังคงเข้ามาใช้บริการในไทยจำนวนมาก และ BDMS เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่เป็นตัวเลือกหลัก, รพ.ปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง, มีเครือข่าย รพ. ขนาดใหญ่ที่สุดในไทยกระจายอยู่หลายจังหวัด (ปัจจุบันมีทั้งหมด 59 รพ.) และหมดระยะเวลาลงทุนจำนวนมากไปแล้ว อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลตอบแทนจากการลงทุน
สำหรับการคาดการณ์ กำไรสุทธิในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 จะอยู่ที่ 3 พันล้านบาท เติบโต 12.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่อ่อนลง 12.4% จากไตรมาสก่อน หนุนโดยรายได้จากคนไข้ต่างชาติที่เพิ่มขึ้นมากถึง 55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้จากคนไข้ไทยอ่อนลงเล็กน้อย 2% เพราะรายได้จากบริการโควิด-19 ลดลง
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มองว่า กำไรในไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมาจะยังคงแข็งแกร่ง คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 3.04 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.4% จากปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 26.6% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเราที่ 1.275 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้แรงหนุนจากทั้งผู้ป่วยชาวไทยและต่างชาติ โดยในช่วงไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมา เราคาดว่ารายได้จากผู้ป่วยต่างชาติจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 64.9% จากการฟื้นตัวของผู้ป่วยที่บินเข้ามารับการรักษาจากตะวันออกกลาง, CLMV และบังกลาเทศ
โดยสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยชาวไทยและต่างชาติจะเปลี่ยนเป็น 72:28 จำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่บินเข้ามารับการรักษายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจะทำให้ occupancy rate โดยรวมทรงตัวจากไตรมาสก่อนอยู่ที่เกือบ 76% โดยมีปัจจัยสนับสนุนดังนี้ 1) ผู้ป่วยที่เลื่อนรับการรักษาจากช่วงก่อนหน้ากลับมารับการรักษา 2) ผู้ป่วยที่มี intensity สูง และ 3) ฐานที่แข็งแกร่งของผู้ป่วยกลุ่มประกัน (>30% ของรายได้รวม)
ยังคงมองบวกกับแนวโน้มกำไรในปี 2566 เราคิดว่าประมาณการกำไรปี 2566 ของเราสะท้อนแนวโน้มการเติบโตที่เป็นบวกไปเรียบร้อยแล้ว โดยเราคาดเอาไว้อยู่แล้วว่าผลประกอบการของ BDMS จะดีขึ้นใน 4Q65 และต่อเนื่องไปอีกสองสามปี จากการที่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและต่างชาติกลับมาใช้บริการจากการที่สถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น, platform การรักษาพยาบาลที่แข็งแกร่งที่มีทั้งการใช้นวัตกรรมและการขยายบริการเวชศาสตร์ป้องกัน
มีความพยายามมากขึ้นที่จะร่วมมือกับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ถึงแม้เราจะมองบวกกับแนวโน้มกำไรระยะยาวของบริษัทอยู่แล้ว แต่เราคิดว่ากำไรของบริษัทยังมี upside อีกในอนาคตจากความร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทอื่นๆ และภาวะที่เอื้อกับธุรกิจของ BDMS จากการที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทสูงกว่าที่คาดทั้งจากผู้ป่วยชาวไทยและต่างชาติ (เช่น BDMS Wellness Clinic, Genomic Center และ National Cancer Center Japan)