เจาะลึก บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป แพลตฟอร์มเคลมประกันรถยนต์ ลุยเข้าตลาดหุ้นหวังปักธงไทยในเวียดนาม

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เจาะลึก บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป แพลตฟอร์มเคลมประกันรถยนต์ ลุยเข้าตลาดหุ้นหวังปักธงไทยในเวียดนาม

Date Time: 15 ม.ค. 2566 11:40 น.

Video

แก้เกมหุ้นไทยตกต่ำ ประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดแผนฟื้นความเชื่อมั่น | Money Issue

Summary

  • เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตผู้คน และการทำธุรกิจในทุกด้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งในอุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์ ที่ต้องการประเมินราคาความเสียหายของทรัพย์สิน

Latest


เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตผู้คน และการทำธุรกิจในทุกด้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งในอุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์ ที่ต้องการประเมินราคาความเสียหายของทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ ซึ่งการประเมินมูลค่าความเสียหายต้องใช้ความแม่นยำและความเที่ยงตรงในการประเมินราคา

ทั้งนี้ในอุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์ในไทยเริ่มมีการใช้ AI มากขึ้นแล้ว โดยเริ่มจากการใช้ประเมินราคาความเสียหายจากกรจดจำรูปแบบความเสียหายจากฐานข้อมูลหลายแสน หลายล้านรายการ เพื่อใช้ประเมินชิ้นงานที่ต้องส่งซ่อมรูปแบบการซ่อม


นางนวรัตน์ วงศ์ฐิติรัตน์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูเวนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ BVG ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มและเแอปพลิเคชันสำหรับธุรกิจประกันภัย เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้นำกลุ่มธุรกิจด้านการประกันภัยรถยนต์

BVG ดำเนินธุรกิจใน 4 ส่วน คือ 1.ธุรกิจให้บริการระบบแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจากประกันภัยรถยนต์ (ระบบ EMCS) 2.ธุรกิจให้บริการระบบแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันสำหรับบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลและสินไหมทดแทน 3.ธุรกิจการให้คำปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย 4.ธุรกิจการให้บริการนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

EMCS ถือเป็นธุรกิจหลักของบริษัท และเราได้นำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ยกระดับการให้บริการลูกค้าโดยเฉพาะการตีราคาประเมินงานค่าซ่อมที่ต้องการความเที่ยงตรงในการประเมินที่ AI จะเข้ามาช่วยคำนวณราคาที่เหมาะสมได้

“เรากำลังใช้ AI เข้ามาช่วยในการเปลี่ยนอุตสาหกรรมประกันภัย โดยในส่วนแรกที่เริ่มใช้คือการนำ AI เข้าไปตรวจสอบความเสียหายในด้านพื้นผิวของตัวรถยนต์เพื่อใช้ในการประเมินราคาการซ่อม”

ปัญหาในด้านของการประเมินราคาค่าซ่อมในช่วงที่ผ่านมาต้องใช้คนในการประเมิน จะมีปัญหาในเรื่องความครบถ้วนของชิ้นงานที่ต้องเคลมประกัน หรือมาตรฐานการของประเมินราคา ซึ่งการประเมินงานพวกนี้จะขึ้นอยู่กับความเห็นของผู้ประเมิน

เราจึงใช้ AI เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยขั้นตอนการทำงาน คือ ทาง BVG จะใส่รูปแบบการประเมินในช่วงที่ผ่านมาเข้าไปในโปรแกรม ซึ่งระบบจะช่วยนำภาพเหล่านั้นมาวิเคราะห์และใช้ในการประเมินราคาที่เหมาะสม

ตั้งแต่ในการพัฒนา AI เวอร์ชันแรก BVG ได้ใส่ภาพไปแล้วกว่า 2 แสนรูป และมีการเติมข้อมูลเข้าไปอย่างต่อเนื้่อง ซี่งปัจจุบัน AI ของบริษัทได้ถูกพัฒนามาในเวอร์ชันที่ 3 แล้ว และมีผู้ใช้บริการแล้ว 6 บริษัท และในปีนี้จะมีการขยายฐานไปยังลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น

EMCS ถือเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญของอุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์ และเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัท โดยในแต่ละปีในอุตสาหกรรมการเคลมประกันภัยรถยนต์ยังมีการเติบโตที่สูง

ซึ่งในการเคลมประกันมีความเกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย ทั้งบริษัทประกันภัย พนักงานสำรวจความเสียหาย อู่ที่ซ่อมรถยนต์ ดังนั้นจึงเกิดธุรกิจแพลตฟอร์มกลางที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ในปี 2564 บริษัทมีฐานลูกค้ามากกว่า 3,700 ราย ประกอบด้วย บริษัทประกันภัย ศูนย์บริการมาตรฐาน อู่ซ่อม ร้านเปลี่ยนกระจกรถยนต์ ร้านอะไหล่ บริษัทสำรวจภัย บริษัทรถยก บริษัทประมูลซากรถ โดยปี 2564 บริษัทประกันภัยที่ใช้ระบบ EMCS มีกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจจำนวน 10.7 ล้านกรมธรรม์ จากทั้งหมด 11.0 ล้านกรมธรรม์ (คิดเป็น 97% ของจำนวนกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ) มียอดการเคลมประกันภัยรถยนต์อยู่ที่ 3.6 ล้านเคลมต่อปี มีการใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มของบริษัทประมาณ 1.5 ล้านเคลมต่อปี

ดังนั้นบริษัทจึงมองว่า การพัฒนาระบบ EMCS ขยายการให้บริการและเครือข่ายของอู่ รวมถึงการสร้างมาตรฐานของการประเมินราคา โดยเฉพาะในการใช้ AI เข้ามาช่วยตัดสินและประเมินราคาค่าซ่อมด้วย

เข้าตลาดหุ้นเพื่อบุกต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม BVG กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ โดยจะมีการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 157,500,000 หุ้น ประกอบด้วย 1.หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 90,000,000 หุ้น 2.หุ้นสามัญเดิม ที่เสนอขายโดยบริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) จำนวนไม่เกิน 67,500,000 หุ้น 157,500,000 หุ้น


ประกอบด้วย 1.หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 90,000,000 หุ้น 2.หุ้นสามัญเดิม ที่เสนอขายโดยบริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) จำนวนไม่เกิน 67,500,000 หุ้น โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


วัตถุประสงค์ในการใช้เงิน จะนำเงินไปใช้ในการพัฒนาระบบ AI และระบบสารสนเทศ ขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน และใช้เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ


โดยคุณนวรัตน์ การเข้าตลาดหุ้นในครั้งนี้บริษัทมองถึงการขยายตลาดไปยังต่างประเทศที่มีการเติบโตสูงทั้งในประเทศเวียดนามและกัมพูชาที่เศรษฐกิจมีการเติบโตสูง ทั้งนี้ในด้านการแข่งขันเชื่อว่าแพลตฟอร์มการของ BVG จะสู้กับต่างชาติได้ด้วยความเข้าใจในตลาดที่มากกว่า.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์