"สารัชถ์" 4 ปีติด แชมป์รวยหุ้น อู้ฟู่ 2.19 แสนล้านบาท

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

"สารัชถ์" 4 ปีติด แชมป์รวยหุ้น อู้ฟู่ 2.19 แสนล้านบาท

Date Time: 9 ธ.ค. 2565 05:15 น.

Summary

  • “สารัชถ์ รัตนาวะดี” ครองหุ้นกัลฟ์ (GULF) ขึ้นแท่นแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2565 รวยอู้ฟู่ รวยล้นเหลือ รวยไม่เสร็จถึง 2.19 แสนล้านบาท ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 4 ปีซ้อน

Latest

เก็บหุ้นปันผล

“สารัชถ์ รัตนาวะดี” ครองหุ้นกัลฟ์ (GULF) ขึ้นแท่นแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2565 รวยอู้ฟู่ รวยล้นเหลือ รวยไม่เสร็จถึง 2.19 แสนล้านบาท ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 4 ปีซ้อน จากการจัดอันดับของวารสารการเงินธนาคาร ตามติดด้วย “ปณิชา ดาว” กลุ่มทุนจากสปป.ลาว ครองอันดับ 2 ถือหุ้นพีเอสจี คอร์ปอเรชั่น(PSG) รวมมูลค่า 8.16 หมื่นล้านบาท “หมอเสริฐ” นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ นั่งเศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ขณะที่ “ตระกูลรัตนาวะดี” ครองแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทย ทำสถิติใหม่ของความ มั่งคั่งอภิมหาร่ำรวยมูลค่าสูงสุด 2.19 แสนล้านบาท

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. วารสารการเงินธนาคารฉบับ ประจำเดือนธันวาคม 2565 เปิดเผยผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยประจำปี 2565 ที่วารสารการเงินธนาคารร่วมกับอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดทำขึ้นติดต่อกันปีนี้เป็นปีที่ 29 โดยวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสูงสุด 10 อันดับแรก ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาด mai ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 ก.ย. 2565

โดยแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2565 ยังคงเป็นของสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการรองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF เป็นการครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 โดยถือหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวม 218,981.58 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 45,881.86 ล้านบาท หรือ 26.51% โดยสารัชถ์ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ GULF ในสัดส่วน 35.55%

หากย้อนรอยความมั่งคั่งของแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 4 สมัย สารัชถ์ก้าวเข้ามาเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยครั้งแรกเมื่อปี 2562 โดยถือหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 มีความมั่งคั่งรวม 120,959.99 ล้านบาท ต่อมาในปีที่ 2 ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเป็น 115,289.99 ล้านบาท ก่อนทะยานสู่ 173,099.73 ล้านบาท ในปีนี้ความมั่งคั่งของสารัชถ์พุ่งทะลุไปถึง 218,981.58 ล้านบาท ถือเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยคนแรกที่มีความมั่งคั่งในระดับ 2 แสนล้านบาท

ขณะที่เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ในปีนี้ ได้แก่ ปณิชา ดาว ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 ของ บมจ.พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น (PSG) ในสัดส่วน 80% รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 81,630.58 ล้านบาท สำหรับ PSG เดิมชื่อ บมจ.ที เอ็นจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น หรือ T ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาคารโรงงาน คลังสินค้า อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า อาคารที่พักอาศัย โรงพยาบาล รวมถึงงานสาธารณูปโภค งานติดตั้งเครื่องจักรต่างๆมากว่า 40 ปี ต่อมาในวันที่ 12 ต.ค.2564 บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนครั้งใหญ่ โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 54,044 ล้านหุ้น ขายนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ในราคาหุ้นละ 0.02 บาท

กลุ่มทุนจาก สปป.ลาว นำโดยปณิชา ดาว ภรรยาของเดวิด แวน ดาว ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท พีที จำกัด ผู้เดียว (PTS) ที่ถือหุ้นในบริษัท หลวงพระบาง พาวเวอร์ จำกัด ผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง ที่ สปป.ลาว เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มใหม่ แล้วเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บมจ.พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น หรือ PSG มีแวน ฮวง ดาว นั่งเป็นประธานกรรมการ และเดวิด แวน ดาว เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ส่วนเศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ได้แก่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือหมอเสริฐ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุง เทพและสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ตกจากอันดับ 2 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 62,735.68 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 4,517.85 ล้านบาท หรือ 7.76% หุ้นที่หมอเสริฐถือครอง ประกอบด้วย บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) เจ้าของเครือข่ายโรงพยาบาล อาทิ รพ.กรุงเทพ รพ.สมิติเวช รพ.บีเอ็นเอช รพ.พญาไท รพ.เปาโล ในสัดส่วน 12.77% และ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส 11.38%

ด้านเศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ได้แก่ นิติ โอสถานุเคราะห์ นักลงทุนรายใหญ่ ทายาทอาณาจักรโอสถสภา ลดจากอันดับ 3 เมื่อปีที่แล้ว โดยนิติเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกใน 8 บริษัท รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 58,124.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,870.84 ล้านบาท หรือ 3.33%

สำหรับเศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ได้แก่ สมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กิจการธุรกิจพลังงาน จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ลดจากอันดับ 4 เมื่อปีที่แล้ว โดยหุ้น EA ที่ถือครองในสัดส่วน 11.05% มีมูลค่ารวม 36,366.27 ล้านบาท รวยลดลง 16,660.08 ล้านบาท หรือ 31.42%

เศรษฐีหุ้น อันดับ 6 ได้แก่ ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่และประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม 1 บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ ทายาทหมอเสริฐ กลับเข้ามาติดทำเนียบ TOP 10 เศรษฐีหุ้นไทย จากอันดับ 21 เมื่อปีที่แล้ว นอกเหนือจากหุ้น BDMS ที่ถือในสัดส่วน 5.08% และ BA 6.49%แล้ว ปีนี้ปรมาภรณ์ยังถือหุ้น บมจ. เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) หุ้นน้องใหม่ IPO ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเดือน พ.ย.2564 เพิ่มขึ้นอีก โดย ถือหุ้น ONEE สูงเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วน 40.04% ส่งผลให้ปีนี้ความมั่งคั่งของปรมาภรณ์ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 35,001.87 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 20,950.06 ล้านบาท หรือ 149.09%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 7 และ 8 ได้แก่ สองเศรษฐีหุ้นเจ้าของ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) หรือชื่อเดิมคือเมืองไทยลิสซิ่ง โดยชูชาติ เพ็ชรอำไพ อยู่ในอันดับ 7 ตกจากอันดับ 6 เมื่อปีที่แล้ว ถือครองหุ้น MTC ในสัดส่วน 33.49% และหุ้นของอีก 5บริษัทรวมมูลค่าทั้งสิ้น 26,518.07 ล้านบาท ลดลง 15,133.90 ล้านบาท หรือ 36.30% ส่วนดาวนภา เพ็ชรอำไพปีนี้อยู่ในอันดับ 8 จากอันดับ 5 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือหุ้น MTC ในสัดส่วน 33.96% มูลค่า 26,100 ล้านบาท ลดลง 15,840.00 ล้านบาท หรือ 37.77%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 9 ได้แก่ อนันต์ อัศวโภคิน บิ๊กอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่แบรนด์ “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” ขยับขึ้นมาจากอันดับ 12 เมื่อปีที่แล้ว โดยอนันต์ถือหุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ในสัดส่วน 23.93% มูลค่า 25,454 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,717 ล้านบาท หรือ 11.95%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 10 ได้แก่ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) โดยหุ้นที่คีรีถือครองมีมูลค่ารวม 22,702.45 ล้านบาท ลดลง 1,929.78 ล้านบาท หรือ 7.83% ประกอบด้วย หุ้น BTS 20.23% กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) 2.14% และ บมจ.เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ (NINE) 4.31%

ขณะเดียวกัน แชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยปีนี้ พบว่า ตระกูลรัตนาวะดีก้าวขึ้นเป็นแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยปี 2565 ด้วยการทำสถิติใหม่มีความมั่งคั่งสูงถึง 218,981.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45,881.85 หรือ 26.51% จากการถือหุ้น บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ของสารัชถ์ รัตนาวะดี แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปีนี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ