กัลฟ์เตรียมเงิน 1.08 หมื่นล้านบาทซื้อหุ้นไทยคมจากอินทัชและรายย่อยที่ราคาหุ้นละ 9.92 บาท “สารัชถ์” แจงเข้าถือหุ้นตรงในไทยคมแทนการถืออ้อมผ่านอินทัช จะทำให้บรรยากาศการทำธุรกิจของไทยคมดีขึ้น เพราะกัลฟ์เป็นบริษัทไทย หวังมองหาโอกาสใหม่ๆให้กับไทยคม เช่น ธุรกิจส่งยานขึ้นสู่อวกาศ (Launcher) รวมทั้งธุรกิจท่าอวกาศยาน (Spaceport) ต่อยอดกัลฟ์สู่ธุรกิจ New Space
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2565 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้บริษัท และ/หรือบริษัท กัลฟ์ เวนเชอร์ส จำกัด (บริษัทย่อย) ซื้อหุ้นสามัญใน บมจ.ไทยคม (THCOM) จาก บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) และซื้อหุ้นสามัญส่วนที่เหลือทั้งหมดของ THCOM โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ THCOM ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ มูลค่าเงินลงทุนรวมประมาณ 10,873.33 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ธุรกรรมดังนี้
1.กลุ่มบริษัทดำเนินการซื้อหุ้นสามัญ THCOM จาก INTUCH จำนวนทั้งสิ้น 450,870,934 หุ้น (คิดเป็น 41.13% ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ THCOM) ราคาหุ้นละ 9.92 บาท คิดเป็นเงินรวม 4,472.64 ล้านบาท ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทคาดว่าจะเข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับ INTUCH โดยไม่ชักช้าภายหลังจากที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท
2.ภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้นสามัญ THCOM จาก INTUCH ตามข้างต้นเสร็จสิ้น กลุ่มบริษัทจะดำเนินการซื้อหุ้นสามัญส่วนที่เหลือทั้งหมดของ THCOM โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ THCOM ทั้งสิ้น 645.23 ล้านหุ้น (คิดเป็น 58.87% ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ THCOM) ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ในการเข้าถือครองหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ ในราคาเดียวกันกับราคาซื้อหุ้นสามัญ THCOM จาก INTUCH (ราคาหุ้นละ 9.92 บาท) คิดเป็นเงินรวม 6,400.69 ล้านบาท
ทั้งนี้ GULF ประเมินว่า การลงทุนดังกล่าวมีความน่าสนใจและเหมาะสมกับบริษัทในหลายมิติ ทั้งด้านยุทธศาสตร์ การเติบโต และเพิ่มศักยภาพการต่อยอดไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะเป็นการลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี ซึ่งมีโอกาสในการพัฒนาธุรกิจได้หลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ THCOM เป็นบริษัทไทยที่ประกอบธุรกิจในหลากหลายประเทศ ไม่ได้อิงรายได้จากภายในประเทศ (Local based) เพียงอย่างเดียว และมีโอกาสในการต่อยอดไปสู่ธุรกิจอวกาศยุคใหม่หรือ New Space ที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้สำหรับธุรกรรมการซื้อขายหุ้นนั้นจะเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ และ/หรือวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และ/หรือการออกหุ้นกู้ และ/หรือตราสารหนี้อื่นๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2565 นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกัลฟ์ได้เรียกประชุมนักวิเคราะห์ ระบุการเข้าซื้อหุ้นไทยคมของกัลฟ์จะทำให้บรรยากาศ (Sentiment) การทำธุรกิจของไทยคมดีขึ้น
เพราะกัลฟ์เป็นบริษัทไทย หลังจากนี้ไทยคมจะสามารถเดินหน้าลุยธุรกิจได้อย่างเต็มที่มากขึ้นโดยไม่ติดขัดอะไรอีก ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าประมูลวงโคจรดาวเทียม การมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งมองถึงการขยายไปทำธุรกิจส่งยานขึ้นสู่อวกาศ (Launcher) รวมทั้งธุรกิจท่าอวกาศยาน (Spaceport) เนื่องจากทำเลที่ตั้งมีความเหมาะสม ทั้งนี้ที่ผ่านมาไทยคมถูกตั้งแง่ว่าเป็นบริษัทที่ถือหุ้นโดยกลุ่มทุนสิงคโปร์ ทำให้การเดินหน้าทำธุรกิจเป็นไปอย่างยากลำบาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาซื้อหุ้น THCOM ที่หุ้นละ 9.92 บาทนั้น เป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด โดยราคาปิดเมื่อวันที่ 7 พ.ย.2565 อยู่ที่ 12.30 บาท ทำให้ราคาหุ้น THCOM เมื่อปิดการซื้อขายวันที่ 8 พ.ย. ลดลงมาอยู่ที่ 11.40 บาท แต่ถือว่าราคายังสูงกว่าราคาที่ GULF ซื้อ ทั้งนี้ THCOM ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/65 มีกำไรสุทธิ 121 ล้านบาท ลดลง 17% เหตุรายได้ดาวเทียมและบริการที่เกี่ยวเนื่องลดลง ส่วนงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 122.8% จากต้นทุนค่าเสื่อมราคาดาวเทียมและค่าสัมปทานลดลง
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุว่า เห็นประโยชน์ ทางการเงินอย่างเดียวจากธุรกรรมนี้ (เงินปันผลผ่าน INTUCH, ได้สินทรัพย์ในราคาที่ถูก ที่ราว 4.5 บาท/หุ้น) แต่ยังไม่เห็นความร่วมมือกันระหว่าง GULF และ THCOM อย่างชัดเจน
ด้าน บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ธุรกรรมการซื้อขายหุ้นน่าจะเสร็จสมบูรณ์ได้ภายในไตรมาส 1 ปี 66 โดยมีมุมมองเป็นบวกกับข่าวนี้ต่อ INTUCH เพราะมองว่าเป็นโครงสร้างการลงทุนของ INTUCH ให้สอดคล้องกับนโยบายใหม่ ที่เน้นลงทุนเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ ขณะที่ THCOM แทบไม่ได้มีนัยสำคัญต่อผลการดำเนินงานของ INTUCH นอกจากนี้ คาดการขายหุ้น THCOM จะส่งผลบวกในระยะสั้นจากกระแสเงินสดที่จะเข้ามา
เพิ่มให้ INTUCH นำไปลงทุนในโครงการอื่นๆได้ ส่วน บล.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ระบุว่า เดิม GULF ได้ถือหุ้น THCOM ทางอ้อมผ่าน INTUCH อยู่แล้ว การเปลี่ยนมาถือทางตรงและเพิ่มสัดส่วนการถือ THCOM จากเดิม 18.95% เป็น 41.13% ไม่ได้เพิ่มส่วนแบ่งกำไรให้ GULF อย่างมีนัยสำคัญ.