BTG ไม่รอดเทรดวันแรกติดลบ 9% นับเป็นไอพีโอตัวที่ 5 ของปีที่ต่ำจองในวันแรก

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

BTG ไม่รอดเทรดวันแรกติดลบ 9% นับเป็นไอพีโอตัวที่ 5 ของปีที่ต่ำจองในวันแรก

Date Time: 2 พ.ย. 2565 17:27 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • BTG เจอแรงขายหนักปิด 36.25 บาท ร่วง 9.37% นับเป็นหุ้น IPO ตัวที่ 5 ของใน SET ในปีนี้ที่ราคาปิดวันแรกต่ำจอง บล.ทรีนีตี้ มองบวก บริษัทอาจทำกำไรปี 65 ทะลุ 8,370 ล้านบาท จากเนื้อสัตว์พุ่ง

Latest


BTG เจอแรงขายหนักปิด 36.25 บาท ร่วง 9.37% นับเป็นหุ้น IPO ตัวที่ 5 ของใน SET ในปีนี้ที่ราคาปิดวันแรกต่ำจอง บล.ทรีนีตี้ มองบวก บริษัทอาจทำกำไรปี 65 ทะลุ 8,370 ล้านบาท จากเนื้อสัตว์พุ่ง


ความเคลื่อนไหวของหุ้น บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ “BTG” เข้าทำการซื้อขายครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังเจอแรงเทขายอย่างหนัก ในวันนี้ โดยปิดการซื้อขาย 36.25 บาท ลดลงจากราคาจองซื้อ 40 บาท หรือลดลงจากราคาจองซื้อ 9.37 % แม้จะมีกรีนชู ในการขายหุ้นครั้งนี้ก็ตาม

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. รายงานว่า BTG นับเป็นหุ้น IPO ตัวที่ 5 ของปีนี้ที่ราคาปิดการซื้อขายในวันแรกต่ำกว่าราคาจองซื้อ นับจาก CIVIL, PCC, TGE และ TLI

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ มีมุมมองที่ดีกับ BTG โดยคาดว่า บริษัทจะสามารถทำกำไรในปีนี้ ได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ โดย BTG เป็นผู้ประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารชั้นนำของไทย มีประสบการณ์ในการดำเนินงานในไทยมากว่า 50 ปี โดยมีรูปแบบการทำธุรกิจแบบครบวงจร ครอบคลุมในหลายด้านของห่วงโซ่การผลิต โดยแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในประเทศไทย ได้แก่ “BETAGRO” “S-Pure” “ITOHAM” “Better

นักวิเคราะห์ จากบล.ทรีนีตี้ คาดการณ์ว่า BTG จะมีกำไรปี 65 ที่ 8,370 ล้านบาท เติบโต 728% จากปี 2564 จากปัจจัยหนุนด้านราคาสัตว์บก ทั้งสุกรขุนและไก่เนื้อ ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลบวกต่อทั้งรายได้และอัตรากำไร

แม้ว่าในส่วนของต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ อาทิ ข้าวโพด และกากถั่วเหลืองจะปรับตัวสูงขึ้น เช่นกันก็ตาม แต่ยังมีน้ำหนักน้อยกว่าราคาสัตว์บกที่ปรับตัวขึ้น โดยราคาสุกรได้รับผลบวกจากอุปทานจากการเลี้ยงสุกรที่ลดลงหลังการระบาดของ ASF ขณะที่ราคาไก่ได้รับผลบวกจากการเปิดตลาดส่งออกใหม่ในหลายประเทศ

นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่า กำไรปี 66 ที่ 8,956 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7% และปี 2567 ที่ 9,908 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน ตามลำดับ แม้คาดราคาสัตว์บกจะยังคงอยู่ในระดับสูง แต่ด้วยฐานสูงทำให้ไม่ใช่ปัจจัยหนุนให้เติบโตสูงเหมือนในปี 65 โดยปัจจัยหนุนหลักจะมาจากการขยายกำลังการผลิตในเกือบทุกธุรกิจ รวมถึงในธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง เช่น การขยายโรงงานแปรรูปอาหารและเนื้อสัตว์และโรงงานอาหารสัตว์เลี้ยง เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อทั้งยอดขายและอัตรากำไรโดยรวม โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 63 บาท


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ