TCAP โชว์กำไรครึ่งปีแรก 65 อยู่ที่ 3,512 ล้าน เติบโตตามภาพรวมเศรษฐกิจ

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

TCAP โชว์กำไรครึ่งปีแรก 65 อยู่ที่ 3,512 ล้าน เติบโตตามภาพรวมเศรษฐกิจ

Date Time: 14 ส.ค. 2565 14:20 น.

Video

ดร.พิพัฒน์ KKP กระเทาะโจทย์เศรษฐกิจไทย บุญเก่าเจอความเสี่ยง บุญใหม่มาไม่ทัน

Summary

  • ทุนธนชาต โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 2/65 แตะ 2,122 ล้าน ส่วนกำไรครึ่งปีแรกปี 65 กำไรสุทธิ 2,122 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 28.51% จากงวดเดียวกันปีก่อน เติบโตตามภาพรวมเศรษฐกิจ

ทุนธนชาต โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 2/65 แตะ 2,122 ล้าน ส่วนกำไรครึ่งปีแรกปี 65 กำไรสุทธิ 2,122 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 28.51% จากงวดเดียวกันปีก่อน เติบโตตามภาพรวมเศรษฐกิจ

นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP กล่าวว่า ในไตรมาส 2/65 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 2,122 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ จำนวน 1,772 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.04% จากไตรมาสก่อน

ในขณะที่ครึ่งปีแรกของปี 2565 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 3,512 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทจำนวน 2,808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.51% จากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากบริษัทร่วมและบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นอยู่มีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทร่วมที่ TCAP เข้าไปลงทุนทั้ง ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ TTB และ MBK ต่างมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้นตามการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ส่วนบริษัทย่อยนั้น ราชธานีลิสซิ่ง หรือ THANI มีกำไรเพิ่มขึ้น 8.13% จากไตรมาสก่อน เป็นผลจากการขยายตัวได้เป็นอย่างดีของสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุก และการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านธนชาตประกันภัย หรือ TNI มีกำไรเพิ่มขึ้น 3.11% จากไตรมาสก่อน และมีเบี้ยประกันภัยรับในช่วงครึ่งปีแรกเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ในส่วนของ เอ็มบีเค ไลฟ์ ประกันชีวิต ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ที ไลฟ์ ประกันชีวิต หรือ T Life มีกำไรเพิ่มขึ้น 67.96% จากไตรมาสก่อน ซึ่งเกิดจากการโอนกลับสำรองประกันชีวิตตามวิธี GPV จาก Zero Coupon Yield Curve ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ T Life ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและบริการทางการเงินอย่างต่อเนื่อง

สำหรับ ธนชาตพลัส หรือ T-Plus มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจและเติบโตขึ้นเป็นลำดับ โดยมียอดสินเชื่อคงค้างประมาณ 3,600 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีจะมียอดสินเชื่อคงค้างสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 4,000 ล้านบาทได้ ในขณะที่ NPL ยังคงเป็นศูนย์ จากการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม จากภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงทั้งในเชิงปริมาณและความผันผวนของราคา ส่งผลให้ หลักทรัพย์ธนชาต หรือ TNS มีกำไรสุทธิลดลง 39.20% จากไตรมาสก่อน ถึงแม้ว่ากำไรจะปรับตัวลดลงบ้างตามภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย

แต่ TNS มีการเติบโตของรายได้อื่นที่ไม่ใช่รายได้ค่านายหน้าได้เป็นอย่างดี เช่น รายได้ค่าธรรมเนียมการให้บริการเกี่ยวกับแผนจัดสรรการลงทุน หรือ ZEAL และรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ และยังมีผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 65 ภาวะเศรษฐกิจอาจจะถูกกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ ตามราคาพลังงาน ราคาวัตถุดิบ และราคาอาหารที่ปรับสูงขึ้น ตลอดจนการปรับเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยนโยบาย แต่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากแรงขับเคลื่อนของทุกภาคส่วน ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยส่งเสริมให้ผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมและบริษัทย่อยสามารถเติบโตได้ต่อไป


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ