CKP ฝ่าวิกฤติก๊าซแพง กวาดกำไรสุทธิ ไตรมาส 2/65 แตะ 864 ล้าน

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

CKP ฝ่าวิกฤติก๊าซแพง กวาดกำไรสุทธิ ไตรมาส 2/65 แตะ 864 ล้าน

Date Time: 11 ส.ค. 2565 14:46 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • CKP ฝ่าวิกฤติก๊าซแพง ไตรมาส 2/65 กวาดกำไรสุทธิ 864 ล้าน รายได้รวม 2,659 ล้าน คาดไตรมาส 3 แนวโน้มผลการดำเนินงานดีกว่าปีก่อน

Latest


CKP ฝ่าวิกฤติก๊าซแพง ไตรมาส 2/65 กวาดกำไรสุทธิ 864 ล้าน รายได้รวม 2,659 ล้าน คาดไตรมาส 3 แนวโน้มผลการดำเนินงานดีกว่าปีก่อน

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 65 นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทในเครือในไตรมาสที่ 2/65 เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกของปีนี้สร้างผลกำไรเป็นที่น่าพอใจ

โดยในไตรมาส 2 มีรายได้รวม 2,659 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 364 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 ที่มีรายได้รวม 2,295 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทอยู่ที่ 864 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% หรือ 157 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 707 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจัยบวกมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้น 248 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด หรือ XPCL ซึ่งบริหารโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ใน สปป.ลาว โดย XPCL มีกำไรเพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 65 CKPower มีรายได้รวม 5,202 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 806 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่มีรายได้รวม 4,396 ล้านบาท

ส่วนกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท อยู่ที่ 903 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% หรือ 81 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 822 ล้านบาท โดยมีปัจจัยบวกมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้น 278 ล้านบาท ซึ่งมาจาก XPCL ที่มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน



นายธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกของปี 2565 เป็นที่น่าพอใจและเติบโตเป็นไปตามที่บริษัทประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนในไตรมาส 3/65 บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานจะมีแนวโน้มดีกว่าปีก่อน

จากการประเมินแนวโน้มของสถานการณ์น้ำของ XPCL ในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อเนื่อง และขณะเดียวกันรายได้จากลูกค้าอุตสาหกรรมของ BIC มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับต้นทุนเชื้อเพลิงมากขึ้นจากการปรับเพิ่มค่า Ft ของภาครัฐตั้งแต่เดือน พ.ค.อีกด้วย

นอกจากนี้ XPCL ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของ CKPower ได้ออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือ Green Bond ครั้งที่ 1/2565 ให้แก่นักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมียอดขายรวม 8,395 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดเสนอขาย 5,000 ล้านบาท และยอดเสนอขายเพิ่มเติมเนื่องจากความต้องการของนักลงทุนมากกว่าที่เสนอขายอีก 3,395 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันถึงมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมของ XPCL ได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม CKPower ยังคงลงทุนต่อเนื่องเพื่อให้ CKPower เป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและมีกำลังการผลิตเติบโตเป็นสองเท่าในปี 2567 โดยในปัจจุบันนี้บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน โดยเฉพาะการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์เป็น 330 เมกะวัตต์ และพลังงานลม 700 เมกะวัตต์ ในภูมิภาคอาเซียน เช่น ในไทย และเวียดนาม.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ