สร้างปริมาณซื้อขายเทียม ก.ล.ต.สั่งลงโทษหนัก “บิทคับ-สตางค์”

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

สร้างปริมาณซื้อขายเทียม ก.ล.ต.สั่งลงโทษหนัก “บิทคับ-สตางค์”

Date Time: 1 ก.ค. 2565 05:15 น.

Summary

  • ก.ล.ต.ลงโทษทางแพ่งปรับบริษัท บิทคับ ออนไลน์ และ สตางค์ คอร์ปอเรชั่น กรณีสร้างปริมาณซื้อขายเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของตัวเอง รวมกว่า 40 ล้านบาท

Latest

เก็บหุ้นปันผล

ก.ล.ต.ลงโทษทางแพ่งปรับบริษัท บิทคับ ออนไลน์ และ สตางค์ คอร์ปอเรชั่น กรณีสร้างปริมาณซื้อขายเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของตัวเอง รวมกว่า 40 ล้านบาท พร้อมสั่งห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด กรณีสร้างปริมาณซื้อขายเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub (ศูนย์ซื้อขาย Bitkub) ของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (บริษัทบิทคับ) โดยให้ผู้กระทำผิดชำระเงิน 24,161,292 บาท กำหนดเวลาห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และกำหนดเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร โดย ก.ล.ต.พบเหตุสงสัยว่าอาจมีการสร้างปริมาณซื้อขายเทียมในศูนย์ซื้อขาย Bitkub จึงได้ตรวจสอบ และพบการกระทำเข้าข่ายเป็นความผิดของบุคคล 3 ราย ได้แก่ 1.บริษัทบิทคับ 2.นายอนุรักษ์ เชื้อชัย 3.นายสกลกรย์ สระกวี

ทั้งนี้ พบว่าบริษัทบิทคับ โดยนายสกลกรย์ได้ทำสัญญาให้นายอนุรักษ์ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่องในศูนย์ซื้อขาย Bitkub และได้ให้นายอนุรักษ์ ยืมเงินเพื่อใช้ในการทำหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เดือน ก.พ.62 นายอนุรักษ์ได้ส่งคำสั่งจับคู่ซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี 4 เหรียญ ได้แก่ Bitcoin (BTC), Bitcoin Cash (BCH), Ethereum (ETH) และ Ripple (XRP) ซึ่งเป็นการจับคู่ซื้อขายกันเอง ในบัญชีซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีของตนเองในศูนย์ซื้อขาย Bitkub การจับคู่ซื้อขายกันเองในแต่ละเหรียญมีสัดส่วน 84-99% ของปริมาณซื้อขายทั้งหมดของนายอนุรักษ์ และตั้งแต่ 57-99% ของปริมาณการซื้อขายรวมทั้งตลาด โดยบริษัทบิทคับและนายสกลกรย์รับทราบถึงการจับคู่ซื้อขายกันเองในบัญชีซื้อขายของนายอนุรักษ์ แต่ไม่ได้ทักท้วงการส่งคำสั่งซื้อขายของนายอนุรักษ์ดังกล่าว

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติลงโทษทางแพ่ง 3 ราย ดังนี้ 1.ให้บริษัทบิทคับ ชำระค่าปรับทางแพ่งขั้นสูงสุดและชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. 8,053,764 บาท 2.ให้นายอนุรักษ์ ชำระค่าปรับทางแพ่งสูงสุดฯ 8,053,764 บาท และห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร 12 เดือน 3.ให้นายสกลกรย์ ชำระค่าปรับทางแพ่งขั้นสูงสุดฯ 8,053,764 บาท และให้ร่วมรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ดำเนินการกับบริษัทบิทคับอย่างลูกหนี้ร่วม และห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร 12 เดือน

นอกจากนี้ยังพบการสร้างปริมาณซื้อขายเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของตัวเองของบริษัทสตางค์ โดยมีผู้กระทำผิด 4 ราย ได้แก่ 1.บริษัทสตางค์ 2.บริษัท LLC Fair Expo 3.นายปรมินทร์ อินโสม และ 4.นาย Mikalai Zahorski โดยได้ลงโทษ ดังนี้ 1.ให้บริษัทสตางค์ ชำระค่าปรับทางแพ่งขั้นสูงสุดและชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. รวม 6,040,323 บาท 2.ให้บริษัท LLC Fair Expo ชำระค่าปรับทางแพ่งขั้นสูงสุดฯ 6,040,323 บาท และห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน 3.ให้นายปรมินทร์ ชำระค่าปรับทางแพ่งขั้นสูงสุดฯ 6,040,323 บาท และให้ร่วมรับผิดในมาตรการลงโทษ ทางแพ่ง ห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร 12 เดือน 4.ให้นาย Mikalai ชำระค่าปรับทางแพ่งขั้นสูงสุดฯ 6,040,323 บาท และให้ร่วมรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่ง และห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร 12 เดือน.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ