ไทยประกันชีวิต เผยไตรมาส 1/65 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 19,450 ล้านบาท

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ไทยประกันชีวิต เผยไตรมาส 1/65 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 19,450 ล้านบาท

Date Time: 1 มิ.ย. 2565 12:00 น.

Video

แก้เกมหุ้นไทยตกต่ำ ประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดแผนฟื้นความเชื่อมั่น | Money Issue

Summary

  • ไทยประกันชีวิต เผยไตรมาส 1/65 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 19,450 ล้านบาท กำไรจากการลงทุนอยู่ที่ 2,240.15 ล้านบาท

Latest


ไทยประกันชีวิต เผยไตรมาส 1/65 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 19,450 ล้านบาท กำไรจากการลงทุนอยู่ที่ 2,240.15 ล้านบาท 

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 65 นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/65 บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 19,450.81 ล้านบาท โดยเบี้ยประกันภัยรับปีแรก อยู่ที่ 2,909.68 ล้านบาท เติบโต 33.7% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ส่วนเบี้ยประกันภัยรับจ่ายครั้งเดียว อยู่ที่ 1,373.55 ล้านบาท เติบโต 7.6% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป อยู่ที่ 15,167.08 ล้านบาท โดยยังมีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์อยู่ที่ 88.6%

ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีกำไรจากเงินลงทุนสำหรับไตรมาสที่ 1/65 อยู่ที่ 2,240.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.0% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสาเหตุหลักมาจากการจัดประเภทรายการใหม่ของเงินลงทุนในบริษัทร่วมในปี 2564 ประกอบด้วย บริษัท ไทยไพบูลย์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน)

รวมถึงธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) และบริษัท โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด โดยเปลี่ยนประเภทจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเป็นเงินลงทุนในหลักทรัพย์แทน ซึ่งส่งผลให้มีการบันทึกผลขาดทุนในไตรมาสที่ 1/64 ขณะที่บริษัทฯ ไม่มีการจัดประเภทรายการใหม่ในลักษณะดังกล่าวในไตรมาสที่ 1/65

นายไชย กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทควบการลงทุน หรือ Investment-linked Product ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบมีส่วนร่วมในเงินปันผล หรือ Participating Product และผลิตภัณฑ์คุ้มครองสุขภาพ หรือ Health Insurance เพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดรับกับแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

โดยเน้นการขยายตลาดทั้งกลุ่มผู้เอาประกันเดิม ผ่านการขายกรมธรรม์ที่สอง หรือ Second Policy รวมถึงการขายทั้งครอบครัว และกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เน้นการขยายตลาดไปสู่ลูกค้าระดับบน หรือกลุ่ม High Net Worth และกลุ่มคนวัยทำงาน ตลอดจนให้ความสำคัญกับการขยายช่องทางจัดจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลของบริษัทฯ และพันธมิตรที่มีแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ในช่วงที่ยังคงต้องเว้นระยะห่างทางสังคม และลดการปฏิสัมพันธ์แบบพบหน้า

ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมานั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน หรือ ค่าใช้จ่ายในส่วนของผลประโยชน์ภายใต้กรมธรรม์ และการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทฯ ไม่มีผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยในรูปแบบ เจอ จ่าย จบ และการเพิ่มขึ้นของจำนวนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากโรคโควิด-19 ที่โดยทั่วไปเป็นการให้ความคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพและสัญญาเพิ่มเติมชดเชยรายได้ระหว่างเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น ถูกหักกลบด้วยการลดลงของการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลในกรณีอื่นเนื่องจากประชาชนหลีกเลี่ยงการไปโรงพยาบาลในช่วงเวลาดังกล่าว

โดยในไตรมาสที่ 1/65 อัตราส่วนการสูญเสีย (Loss Ratio) ที่เกี่ยวข้องกับค่ารักษาพยาบาลอยู่ที่ 8.0% ขณะที่การจ่ายเงินผลประโยชน์และค่าใช้จ่ายในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 มีจำนวน 473.70 ล้านบาท

นอกจากนี้ สถานะทางการเงินของบริษัทฯ ยังคงมีความมั่นคง โดยมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio: CAR) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 อยู่ที่ร้อยละ 360.57% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ ยังคงสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์