ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก เผยยอดขายน้ำมันดีเซล เบนซิน เม.ย.65 พุ่งสูงขึ้น ขณะที่การขายน้ำมันอากาศยานเริ่มฟื้นจากเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น พร้อมเร่งขยายปั๊ม Cafe Amazon ตามแผน
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 65 นายพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารการเงิน บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด มหาชน หรือ OR กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/65 บริษัทเห็นปริมาณการจำหน่ายน้ำมันดีเซล และเบนซินในช่วงเดือน เม.ย.65 ยังเติบโตได้ดี
นอกจากนี้ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันอากาศยาน หรือ Jet เริ่มฟื้น จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และการเปิดประเทศทำให้เที่ยวบิน (Flights) จะเพิ่มมากขึ้น หลังจากช่วงโควิด-19 ระบาดหนักส่งผลกระทบต่อปริมาณการจำหน่ายน้ำมัน Jet หายไปถึง 70%
ขณะเดียวกัน ค่าการตลาด หรือ Marketing Margin ในไตรมาส 2/65 คาดใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน แม้จะได้รับผลกระทบจากการตรึงราคาน้ำมันดีเซลในเดือน เม.ย. 65 แต่ได้ปัจจัยหนุนจากภาครัฐลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.-20 ก.ค. 65 และเงินกองทุนน้ำมันเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนและภาคธุรกิจ
นายพิจินต์ กล่าวอีกว่า ผลการดำเนินงานทั้งปี 65 จากคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ GDP เติบโต 2.5-3.5% จากการท่องเที่ยวและส่งออกที่ดีขึ้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวที่คาดว่าจะออกมาเพิ่มเติม เป็นปัจจัยบวกต่อผลการดำเนินงานของ OR ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
โดย กลุ่ม ปตท.ประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และปี 66 น่าจะลงมาเฉลี่ยอยู่ที่ 92.6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์รัสเซียและยูเครนจะดีคลี่คลายลง และเศรษฐกิจจีนน่าจะดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงแผนการขยายสถานีบริการน้ำมัน หรือ PTT Station ปีนี้จำนวน 129 สาขา และร้าน Cafe Amazon ที่ 389 สาขา จากไตรมาส 1/65 ขยายไปแล้วจำนวน 5 สาขา และ 57 สาขา ตามลำดับ ซึ่งยอมรับว่าช้ากว่าแผนเล็กน้อย
แต่บริษัทฯ จะไปเร่งการขยายสาขาในช่วงปลายไตรมาส 2/65 เป็นต้นไป โดย ณ วันที่ 31 มี.ค.65 บริษัทฯ มีสาขา PTT Station ทั้งสิ้นจำนวน 2,453 สาขา, สถานีชาร์จ EV จำนวน 107 สาขา, ร้าน Cafe Amazon จำนวน 4,002 สาขา และยังมีการดำเนินงานใน 10 ประเทศทั่วโลก
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการ (M&A) หรือการร่วมลงทุน (JV) อย่างต่อเนื่องอีกหลายดีล โดยคาดว่าปีนี้น่าจะสามารถประกาศปิดดีลได้บางราย อย่างไรก็ตาม การเจรจายังคงมุ่งเน้นไปเพื่อการเติมเต็มธุรกิจค้าปลีกที่ไม่ใช่น้ำมัน ซึ่งจะเข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนไปในอนาคต