เต่าบินตู้กดกาแฟ 170 เมนูมาแรง FSMART เพิ่มอีก 2 หมื่นตู้ภายใน 3 ปี

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เต่าบินตู้กดกาแฟ 170 เมนูมาแรง FSMART เพิ่มอีก 2 หมื่นตู้ภายใน 3 ปี

Date Time: 25 ก.พ. 2565 16:01 น.

Video

ล้วงลึกอาณาจักร “PCE” สู่บริษัทมหาชน ปาล์มครบวงจร | On The Rise

Summary

  • เต่าบินตู้กดน้ำอัตโนมัติที่มี 170 เมนูมาแรง ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส ตั้งเป้าเพิ่มอีก 20,000 ตู้ภายใน 3 ปี โชว์ผลงานปี 64 ทำกำไร 400 ล้านบาท พร้อมปันผลอีก 0.20 บาทต่อหุ้น

Latest


เต่าบินตู้กดน้ำอัตโนมัติที่มี 170 เมนูมาแรง ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส ตั้งเป้าเพิ่มอีก 20,000 ตู้ภายใน 3 ปี โชว์ผลงานปี 64 ทำกำไร 400 ล้านบาท พร้อมปันผลอีก 0.20 บาทต่อหุ้น

เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 65 เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 65 นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART กล่าวว่า คาเฟ่อัตโนมัติภายใต้แบรนด์เต่าบิน หรือตู้กดกาแฟเต่าบินนั้น อยู่ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด

โดย FSMART ได้ร่วมลงทุนในสัดส่วน 19.35% และเป็นผู้ดูแลระบบการรับชำระและให้บริการศูนย์บริการ Call center ให้คาเฟ่อัตโนมัติเต่าบิน ที่มีมากกว่า 170 เมนู ให้บริการเครื่องดื่มชงสดทั้งร้อน เย็น และปั่นตลอด 24 ชั่วโมง ให้ได้ 20,000 จุดทั่วประเทศภายใน 3 ปี โดยเชื่อธุรกิจดังกล่าวจะเป็นฐานรายได้ใหม่ หรือ New S Curve ที่สร้างผลกำไรให้กับบริษัทในระยะยาว

อย่างไรก็ตามในปี 64 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถขยายช่องบริการใหม่ ทั้งตู้บุญเติมรูปแบบใหม่ บุญเติม Mini ATM และเคาน์เตอร์แคชเชียร์ CenPay powered by Boonterm แม้ว่าบริษัทยังคงดำเนินการในสถานการณ์โควิด-19 แต่ยังสามารถรับมือได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะธุรกิจบริการทางการเงินและสินเชื่อครบวงจรที่มีอัตราการใช้บริการเพิ่มขึ้น 14.4% จากปีก่อน จากสร้าง Ecosystem ธุรกรรมทางการเงินแบบครบวงจร และการเพิ่มตัวแทนธนาคารและ Non-bank ต่อเนื่อง

รวมถึงธุรกรรมการเงินออนไลน์อย่างการเติมเงิน e-Wallet มียอดเพิ่มสูงขึ้น 47.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนด้วย เช่นเดียวกับธุรกิจเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติและการกระจายสินค้าที่เติบโตจากการขยายจุดบริการอย่างต่อเนื่องจากกระแสคาเฟ่อัตโนมัติเต่าบินที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ธุรกิจเติมเงิน-รับชำระเงินอัตโนมัติก็มียอดใช้งานสม่ำเสมอ ด้วยบริการใหม่ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้อย่างครอบคลุมมากขึ้น”

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 64 FSMART ทำรายได้รวม 2,679 ล้านบาท ลดลง 179.4 ล้านบาท หรือ 6.3% จากช่วงเดียวกันปี 63 ที่มีรายได้ 2,859 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 400 ล้านบาท ลดลง 64.0 ล้านบาท หรือ 13.8% เมื่อเทียบปีที่ผ่านมา สาเหตุส่วนใหญ่จากการครบกำหนดการใช้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีจากการลงทุนเพิ่มตู้ในปี 2559 จำนวน 34 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าเติมเงินรวมอยู่ที่ 37,981 ล้านบาท ลดลง 1.7% จากปี ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 4 บริษัทมีรายได้รวม 625.19 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 80.78 ล้านบาท ลดลง 15.0% จากไตรมาสที่ผ่านมา และ 26.8% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน

ส่วนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทคาดการณ์การเติบโตโดยรวม 10-15% โดยวางเป้าหมายเป็นตัวแทนธนาคารและกลุ่ม Non-bank เพิ่มอย่างน้อย 2 ราย จากปัจจุบัน 7 ราย และขยายบุญเติม Mini ATM 10,000 จุดทั่วประเทศ ภายใน 2 ปีตามแผน พร้อมพัฒนาขีดความสามารถให้บริการได้ทั้งในประเทศและโอนเงินระหว่างประเทศ เพื่อให้บุญเติมเป็นธนาคารชุมชนครบวงจร

ด้วยบริการทางการเงินทั้งฝาก-โอน-ถอนเงินสด และบริการ e-KYC ที่มีจุดบริการมากที่สุด ผ่านตู้บุญเติมกว่า 130,000 จุด เคาน์เตอร์แคชเชียร์ CenPay powered by Boonterm กว่า 1,700 จุดทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางแอปพลิเคชันที่ร่วมพัฒนากับคู่ค้าที่จะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

ขณะเดียวกัน จะมุ่งเน้นการจัดหาบริการให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตปัจจุบันผ่านช่องทางใหม่ๆ รวมถึงช่องทางโมบายแอปพลิเคชัน ซึ่งสามารถให้บริการได้ครบถ้วน อาทิ บริการเติมเงิน e-Wallet บริการ Data Package ในการใช้อินเทอร์เน็ต บริการรับชำระสินค้ากลุ่มประกันภัย บริการสินเชื่อ และบริการอื่นๆ เพื่อขยายฐานและรองรับลูกค้ากลุ่มใหม่

นอกเหนือจากการรักษาฐานลูกค้าออฟไลน์ที่มีการใช้งานกว่า 1.3 ล้านรายการต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทเตรียมบริการด้านสินเชื่อด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ เช่น สินเชื่อผ่อนชำระสินค้า สินเชื่อจำนำทะเบียน ด้วยเป้าการปล่อยสินเชื่อวงเงิน 1,000 ล้านบาท โดยทั้งหมดจะช่วยสร้าง Ecosystem ให้กับบริษัทอย่างเต็มรูปอย่างแท้จริง

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท จากกำไรสุทธิของงวดดำเนินงานวันที่ 1 ก.ค.-31 ธ.ค. 64 โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 11 มี.ค. 65 และกำหนดจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เม.ย. 65 ทั้งนี้ บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้ว 0.26 บาทต่อหุ้น รวมจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 64 เท่ากับ 0.46 บาทต่อหุ้น


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์