SET เตือนนักลงทุนพิจารณาให้รอบคอบก่อนซื้อขายหุ้นธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

SET เตือนนักลงทุนพิจารณาให้รอบคอบก่อนซื้อขายหุ้นธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล

Date Time: 14 ก.พ. 2565 14:44 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตือนผู้ลงทุนให้พิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบ และระมัดระวัง ก่อนเข้าซื้อขายในหลักทรัพย์ที่ลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency Mining

Latest


ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตือนผู้ลงทุนให้พิจารณาข้อมูลอย่างรอบคอบ และระมัดระวัง ก่อนเข้าซื้อขายในหลักทรัพย์ที่ลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency Mining

เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 65 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ หรือ SET รายงานว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ พบหลักทรัพย์ที่มีสารสนเทศเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล หรือ Cryptocurrency Mining มีสภาพการซื้อขายในลักษณะเก็งกำไรสูง กล่าวคือ ราคา มูลค่าการซื้อขาย และอัตราการหมุนเวียนเปลี่ยนมือ (% Turnover ratio) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากและต่อเนื่อง แม้บริษัทจดทะเบียนจะได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า มิได้มีสารสนเทศ หรือพัฒนาการที่สำคัญเพิ่มเติมจากที่เคยแจ้งมาแล้ว

ตัวอย่างเช่น หลักทรัพย์บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA ราคาเพิ่มขึ้น 89% ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 1,970 ล้านบาทต่อวัน % Daily Average Turnover Ratio อยู่ที่ 44% นอกจากนั้นหลักทรัพย์บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ราคาเพิ่มขึ้น 27% ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 363 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2565 สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ออกข่าวเตือนผู้ถือหุ้น JTS ให้ไปใช้สิทธิออกเสียงกรณีเข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเห็นว่า โครงการลงทุนดังกล่าวมีความเสี่ยงสำคัญที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้

สำหรับการซื้อขายภาคเช้าของวันนี้ (14 ก.พ. 65) ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงพบการเปลี่ยนแปลงที่สูงขึ้นของราคา มูลค่าการซื้อขายในอีกหลายหลักทรัพย์ที่มีความเกี่ยวข้องกับการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล ได้แก่ หลักทรัพย์ ZIGA (ราคาขึ้นไปที่ Ceiling และไม่มีเหลือคำเสนอขาย (offer) ที่ตั้งรอ มูลค่าซื้อขาย 1,850 ล้านบาท

หลักทรัพย์บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA (ราคาเพิ่มขึ้น 23.91% มูลค่าซื้อขาย 1,064 ล้านบาท), หลักทรัพย์บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF (ราคาเพิ่มขึ้น 20.00% มูลค่าซื้อขาย 783 ล้านบาท) และหลักทรัพย์บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA (ราคาเพิ่มขึ้น 12.90% มูลค่าซื้อขาย 487 ล้านบาท) เป็นต้น ในขณะที่ SET และ mai Index ปรับตัวลดลง 0.77% และ 0.94% ตามลำดับ

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอเตือนผู้ลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขาย โดยขอให้ศึกษาข้อเท็จจริง และความเสี่ยงต่างๆ เกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล ให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อขาย นอกจากนี้ขอให้บริษัทสมาชิกทุกรายกำกับดูแลการซื้อขายและการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดและเคร่งครัดเพื่อป้องกันภาวะการเก็งกำไรเกินควร และการส่งคำสั่งซื้อขายที่อาจไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์