เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล ตั้งเป้าปี 65 รายได้โต 1 พันล้าน เตรียมรุกธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน และ Digital Asset เต็มสูบ
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 65 นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG กล่าวว่า ในปี 2565 เรามองว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มฟื้นตัว กลุ่มนักลงทุนรายบุคคล รวมถึงนักลงทุนสถาบันเริ่มมองหาช่องทางการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น ดังนั้นในปีนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญของเอ็กซ์สปริงที่จะเติบโต เพื่อก้าวสู่เป้าหมายตามแผนที่งานได้วางไว้
ทั้งนี้ เราเตรียมรุกด้วย 2 กลุ่มธุรกิจยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1. ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือ AM และ 2. กลุ่มธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หลังได้รับ Digital Asset Brokerage and Dealer license โดยในปีนี้ เอ็กซ์สปริง ยังคงเดินหน้ารุกธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Digital Asset ผ่านการดำเนินงานของบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ซึ่งประสบความสำเร็จในการออก ICO ตัวแรกของไทยในปีที่ผ่านมา โดยบริษัทตั้งเป้าออก ICO สู่ตลาดไม่ต่ำกว่า 4-6 ตัว ในปี 65
ทั้งนี้ เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ยังได้รับ 4 ใบอนุญาตอย่างเป็นทางการจากสำนักงาน ก.ล.ต. ได้แก่ 1. นายหน้าซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี 2. นายหน้าซื้อขายโทเคนดิจิทัล 3. ผู้ค้าคริปโตเคอร์เรนซี และ 4. ผู้ค้าโทเคนดิจิทัล พร้อมเดินหน้าเป็นผู้ให้บริการทางการเงินและการลงทุนในระบบดิจิทัลแบบ One-Stop Service เจ้าแรกในไทย รองรับการเชื่อมต่อกับตลาดทุนโลก
โดยตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาด 1 ใน 3 ผ่านการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง และเสริมศักยภาพด้านการให้บริการนายหน้าซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีที่เชื่อม Global Liquidity เสริมสภาพคล่องการซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก ผ่าน Coinbase แพลตฟอร์มซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ในสหรัฐอเมริกา คาดว่าระบบจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมให้บริการได้ภายในไตรมาสแรกนี้
ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน (Asset Management) โดยมีแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในธุรกิจใหม่คือการเป็น ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Fund Manager) เอ็กซ์สปริงคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Fund Manager) จาก ก.ล.ต.ได้ในไตรมาสที่สองของปีนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถนำเสนอโอกาสการลงทุนในกองทุนรูปแบบอื่นๆ แก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไปภายในประเทศได้ในระยะเวลาอันใกล้ และการเป็น นายหน้าซื้อขาย ค้า และจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน (LBDU) เพื่อเพิ่มทางเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุนให้แก่ลูกค้าในไตรมาสแรก ตลอดจนการหาโอกาสการลงทุนในบริษัทเอกชนที่มีศักยภาพสูง
ส่วนกลุ่มธุรกิจ AMC ซึ่งในปีนี้ เอ็กซ์สปริงเตรียมประมูลสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพิ่มมากขึ้น มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดยร่วมบริหารงานกับพันธมิตรอย่าง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เนื่องจากปัจจุบันแนวโน้มสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลมีทิศทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์จะยิ่งมีบทบาทอย่างมากในการเป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อเข้ามาช่วยแก้ปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ในระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกลุ่มธุรกิจ AMC ของเอ็กซ์สปริง มุ่งเน้นไปที่การบริหารกลุ่มสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่มีหลักประกัน เช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโด ซึ่งกลุ่มธุรกิจนี้ถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ในการสร้างรายได้ของกลุ่มเอ็กซ์สปริงในอนาคตด้วย
นางสาววรางคณา กล่าวอีกว่า ในปีนี้ เอ็กซ์สปริง มองเห็นโอกาสการลงทุนในธุรกิจ Green Investment ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายในการพัฒนาที่ยั่งยืนของภาคธุรกิจและสังคม บริษัทฯ ยังคาดหวังประโยชน์ที่จะได้จากโอกาสการร่วมลงทุนกับยักษ์ใหญ่ในภูมิภาคอื่นๆ รวมไปถึงการแบ่งปันองค์ความรู้ โดยกำหนดสัดส่วนการลงทุนในด้านนี้ไว้ที่อัตราส่วน 10%
ล่าสุดเอ็กซ์สปริง ร่วมลงทุนในบริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ SHARGE ผู้ให้บริการด้านการชาร์จรถ EV แบบครบวงจร ด้วยจุดแข็งทางธุรกิจของชาร์จ การใช้อุปกรณ์นำเข้ามาตรฐานยุโรป ปลอดภัยต่อการใช้ไฟฟ้าแรงสูง มีทีมบริการหลังการขายแบบมืออาชีพดูแลลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมเข้าถึงไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ รวมไปถึงการลงทุนใน Venture Capital Fund กองทุน Cibus Enterprise Fund ii
นอกจากนี้ มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท คิง ออฟ เกมเมอร์ คลับ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกันประกอบธุรกิจเกี่ยวกับภาพยนตร์ และพัฒนาโมบายแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับสื่อบันเทิงในรูปแบบต่างๆ และดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการส่งเสริมการขายที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการลงนามในสัญญาร่วมทุนและจัดตั้งบริษัทร่วมทุน โดยเอ็กซ์สปริงมีสัดส่วนการถือหุ้น 61.5381%
สำหรับทิศทางการลงทุน ในปีนี้ของเอ็กซ์สปริง เรายังคงมุ่งเน้นการแสวงหาการลงทุนและเปิดโอกาสในการลงทุนทุกประเภทที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต และด้วยการวางกลยุทธ์อย่างรัดกุม รองรับแพลตฟอร์มที่เราได้พัฒนาวางรากฐานของธุรกิจ ผนวกกับการดำเนินงานอย่างมืออาชีพด้วยวิสัยทัศน์ที่มองเห็นโอกาสของโลกการเงินแห่งอนาคต ทำให้บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้รวมในปี 2565 ได้เกินกว่า 1,000 ล้านบาท.