ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 26 พ.ย.ว่า ปรับตัวดิ่งลงรุนแรง ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวลงทุกตลาด เนื่องจากความกังวลการแพร่ระบาดของโควิดในทวีปยุโรปที่มีความรุนแรงขึ้นและโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่พบในแอฟริกาใต้ ส่งผลให้เกิดแรงเทขายหุ้นออกมาเพื่อลดความเสี่ยงในระยะสั้น กดดัชนีปรับตัวลงอย่างรุนแรงตลอดทั้งวัน ก่อนมาปิดตลาดที่ระดับ 1,610.61 จุด ลดลง 37.85 จุด หรือ 2.30% มีมูลค่าการซื้อขาย 123,472.10 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,091.21 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 3,462.17 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิสวนทางนักลงทุนสถาบัน 12,791.60 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมากังวลการแพร่ระบาด รอบใหม่ของโควิด-19 ในยุโรปและการกลายพันธุ์ของโควิดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งต้องรอดูการประชุมองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าจะมีข้อสรุปเรื่องวัคซีนที่มีอยู่จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้หรือไม่ โดยประเมินไว้ 2 กรณี หากกรณีผลออกมาว่าไม่สามารถควบคุมได้ มีโอกาสที่ดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวลดลงไปได้อีก ให้แนวรับที่ 1,580 จุด และกรณีที่สามารถใช้วัคซีนที่มีอยู่ควบคุมการแพร่ระบาดได้ ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,600 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,650 จุด อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้แนะนำ ให้ชะลอลงทุน เพื่อรอดูสถานการณ์ไปก่อน เพราะก่อนหน้านี้ตลาดปรับตัวขึ้นมากแล้ว และเดือน ธ.ค.เป็นช่วงมีเทศกาลวันหยุดยาว ขณะที่รอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันที่ 14-15 ธ.ค.นี้ ขณะที่ยังมีความกังวลหน่วยงานรัฐของสหรัฐฯ อาจปิดทำการ (Government Shutdown) หากไม่สามารถแก้ไขเพดานหนี้ได้ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้