CPF ติดอันดับดัชนีความยั่งยืน DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

CPF ติดอันดับดัชนีความยั่งยืน DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7

Date Time: 13 พ.ย. 2564 17:42 น.

Video

คนไทยจ่ายภาษีน้อย มนุษย์เงินเดือนรับจบ ปัญหาอยู่ที่ระบบหรือคนกันแน่ ? | Money Issue

Summary

  • เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ติดอันดับสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ประจำปี 64 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 พร้อมเดินแผนกลยุทธ์ความยั่งยืนใหม่ CPF 2030 Sustainability in Action

Latest


เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ติดอันดับสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ประจำปี 64 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 พร้อมเดินแผนกลยุทธ์ความยั่งยืนใหม่ CPF 2030 Sustainability in Action

เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 64 นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF กล่าวว่า บริษัทได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices : DJSI) ประจำปี 2564 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 และเป็น 1 ใน 3 ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร (Food Products Industry) ประเภทตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets)

ทั้งนี้ การได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI มาตลอด 7 ปี แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ซีพีเอฟ ในการเป็นผู้นำสร้างความมั่นคงทางอาหารของโลกตามมาตรฐานสากลด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมเกษตรแบบครบวงจร สร้างหลักประกันอาหารปลอดภัยให้กับผู้บริโภคทั่วโลก โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใสและรับผิดชอบต่อสังคมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

สำหรับดัชนี DJSI เป็นหนึ่งในมาตรฐานสูงสุดสำหรับการประเมินความยั่งยืนองค์กรระดับโลก โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งการประกาศผลปีนี้ ซีพีเอฟ ยังคงรักษาความโดดเด่นด้านการบริหารนวัตกรรม หรือ Innovation Management

ด้านสุขภาพและโภชนาการ หรือ Health & Nutrition ด้านการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร หรือ Food Loss & Waste ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change ร่วมกับประชาคมโลก และเป้าหมายการยกระดับการบริโภคที่ยั่งยืนจากนวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ ซีพีเอฟ ร่วมมือกับคู่ค้าธุรกิจพัฒนาอาหารสัตว์รักษ์สิ่งแวดล้อมของสุกรและไก่ไข่ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากมูลสัตว์ได้ถึง 72,500 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าในปี 2563 มีศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารซีพีเอฟเป็น One-Stop-Service สำหรับลูกค้าเพื่อออกแบบและพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เช่น ผลิตภัณฑ์โปรตีนสัตว์จากพืช (Plant-based Protein) ภายใต้แบรนด์ Meat Zero และหมูชีวาที่มีโอเมก้า 3

โดยคำนึงถึงการลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหารในกระบวนการผลิต โดยพัฒนากระบวนการผลิตทั้งกระบวนการให้ปราศจากขยะอาหารและช่วยลดปริมาณขยะสู่บ่อฝังกลบ เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายลดขยะอาหารจากการดำเนินธุรกิจให้เป็นศูนย์ภายในปี 2573 ตอกย้ำการเป็นผู้นำในการสร้างความมั่นคงทางอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และเข้าถึงได้

"2 ปี ที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซีพีเอฟ มีการปรับการบริหารจัดการธุรกิจอย่างรวดเร็วให้เกิดความคล่องตัวและขับเคลื่อนธุรกิจได้เต็มประสิทธิภาพโดยไม่หยุดชะงัก ด้วยมาตรการด้านสุขอนามัยสูงสุดอย่างเคร่งครัด สร้างหลักประกันคนปลอดภัย อาหารปลอดภัย" 

ขณะเดียวกัน ซีพีเอฟ ได้ประกาศกลยุทธ์ความยั่งยืนใหม่ CPF 2030 Sustainability in Action เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องในอีก 9 ปีข้างหน้า ทั้งในประเทศไทยและกิจการในต่างประเทศ สอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ หรือ Sustainable Development Goals : SDGs โดยมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีกระบวนการผลิตคาร์บอนต่ำตลอดห่วงโซ่

นอกจากการลดขยะอาหารในกระบวนการผลิตของบริษัทเป็นศูนย์แล้ว ยังมีเป้าหมายระหว่างทางขององค์กร คือ ลดของเสียที่ถูกนำไปฝังกลบและเผาให้เป็นศูนย์ และรับซื้อวัตถุดิบหลักจากแหล่งที่ปราศจากการตัดไม้ทำลายป่า 100% ภายในปี 2573 รวมถึงการปลูกป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในสถานประกอบการเพื่อดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์

โดยยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ให้อาหารแต่ละมื้อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในอนาคตด้านสุขภาพที่ดี สร้างภูมิคุ้มกันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Future Food) รองรับความต้องการในอนาคต และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม สมดุลธรรมชาติ ตามแนวทางการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ