นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการ หอการค้าไทย-จีน เปิดเผยว่า ได้สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นสมาชิกไตรมาส 4 ปี 2564 พบว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดความกังวลก่อนจะผ่านปี 2564 คือ โควิดกลายพันธุ์ที่รุนแรงกว่าสายพันธุ์เดลตา หนี้สะสมของภาคธุรกิจ ภาคครัวเรือนและเสถียรภาพทางด้านการเมือง อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบส่วนใหญ่มองว่า การเร่งฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมาย 70% โดยเร็ว จะมีผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในสิ้นปี 2564 แต่บางส่วนบอกว่า เศรษฐกิจปีนี้ น่าจะยังไม่ดีขึ้น เพราะปัจจัยอื่นๆนอกเหนือจากโรคระบาด โดยส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะติดลบ และหากจำนวนผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 2,000 รายต่อวัน (ค่าเฉลี่ย 14 วันย้อนหลัง) จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความสบายใจในการทำธุรกิจและการขยายการลงทุน
“ตอนนี้จีนกำลังรณรงค์นโยบายเศรษฐกิจเติบโตที่รอบด้านและเสมอภาค น่าจะมีผลกระทบต่อไทย ที่กำลังฟื้นตัวจากโควิด-19 โดยประเด็นเชิงนโยบายของจีนที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด คือ วิกฤติพลังงานของจีน จะส่งผลต่อการชะลอกำลังการผลิตและชะลอการนำเข้าวัตถุดิบ ชิ้นส่วนและอุปกรณ์การผลิต ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุตสาหกรรม ทั้งของจีนเอง รวมถึงในภูมิภาคและโลกโดยรวม”
ส่วนการสำรวจคาดการณ์สถานการณ์เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ของไทย โดยรวมในไตรมาสที่ 4 เมื่อเทียบกับไตรมาสปัจจุบัน พบว่า ผู้ตอบ 41.5% ตอบเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น, 26.9% ตอบจะทรงๆ โดยภาคธุรกิจที่ยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คือ ธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจโลจิสติกส์ พืชผลการเกษตร เกษตรแปรรูปและบริการสุขภาพ.