นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 144.37 เพิ่มขึ้น 124.3% จากเกณฑ์ซบเซาเดือนก่อน มาอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” นักลงทุนคาดหวัง แผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นในการลงทุนมากที่สุด รองลงมาคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และเงินทุนไหลเข้า
“ปัจจัยที่กดดันความเชื่อมั่นมากที่สุด ได้แก่โควิด-19 ระลอกปัจจุบัน สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ และความขัดแย้งระหว่างประเทศ หากโฟกัสผลสำรวจรายกลุ่มนักลงทุน พบว่านักลงทุนทุกกลุ่มมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นทั้งหมด โดยความเชื่อมั่นนักลงทุนบุคคล ปรับเพิ่ม 95% กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ปรับขึ้น 233% กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ ปรับขึ้น 130% กลุ่มนักลงทุนต่างชาติปรับเพิ่ม 140% อยู่ระดับ 160”
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4 มีโอกาสสูงที่จะเห็นเงินต่างชาติทยอยไหลเข้าซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยจากเดือนก่อนหน้าต่างชาติ ยังเป็นผู้ขายสุทธิมาตลอด ปัจจัยที่สำคัญมาจากการฉีดวัคซีน ที่เข้ามาตามแผน และแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงที่เหลือของปีนี้ แกว่งอยู่ในช่วงบวก/ลบ 1,650 จุด โดยมีอัปไซด์หรือโอกาสปรับขึ้น จากตรงนี้ถึงปลายปีไม่มากนัก ขณะที่โอกาสที่ดัชนีจะปรับลงก็ไม่มากเช่นกัน ซึ่งนักลงทุนมองยาวไปถึงปีหน้าแล้ว และมองว่าปีหน้า ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 1,800 จุดได้ ภายใต้การคาดการณ์อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปีหน้าขยายตัว 4% นักท่องเที่ยว ต้องกลับมาพอควร กำลังซื้อในประเทศต้องฟื้นตัวกลับมา และรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาด้วย ส่วนปีนี้หากจีดีพีกลับมาโตได้ 1% ถือว่าดีมากแล้ว.