SIRI เผยกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 64 แตะ 1,046 ล้าน โตจากปี 63 ถึง 227%

แสนสิริ โชว์กำไร 6 เดือนแรกของปี 64 แตะ 1,046 ล้านบาท โตจากปี 63 ถึง 227% ยอดขายโครงการแนวราบพุ่ง 67%

เมื่อวันที่ 18 ส.ค.64 นางสาววรางคณา อัครสถาพร ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ผลประกอบการรอบ 6 เดือนของปี 64 บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ 1,046 ล้านบาท เติบโตขึ้น 227% จากรอบ 6 เดือนของปี 63 ที่มีกำไรสุทธิฯ 320 ล้านบาท

สำหรับกำไรสุทธิฯ เฉพาะไตรมาส 2/64 อยู่ที่ 662 ล้านบาท โตขึ้น 156% จากไตรมาสเดียวกันของปี 63 ที่มีกำไรสุทธิฯ 258 ล้านบาทและโตขึ้น 72% จากไตรมาสแรกที่มีกำไร 384 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิในไตรมาส 2/64 อยู่ที่ 8.2% โตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและโตขึ้นจากไตรมาสแรก ที่มีอัตรากำไรสุทธิ 5.6% 

ทั้งนี้ รายได้รวมในรอบ 6 เดือน อยู่ที่ 14,868 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้รวมในช่วงไตรมาสแรก 6,827 ล้านบาท และรายได้รวมไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 8,042 ล้านบาท โตขึ้น 18% นอกจากนี้ แสนสิริยังมีผลงานยอดขายที่โดดเด่น โดยในช่วง 7 เดือน สร้างยอดขายรวมไปได้ถึง 20,600 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 70% จากเป้าหมายยอดขาย 31,000 ล้านบาท

โดยแบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบถึง 13,700 ล้านบาท และยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมอีก 6,900 ล้านบาท สัดส่วนยอดขายจากโครงการแนวราบพุ่งเป็น 67% รวมทั้งมียอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ และส่งมอบให้กับลูกค้าไปแล้วถึง 18,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 60% จากเป้าหมายยอดโอน 31,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดโอนจากโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม ในสัดส่วน 55 : 45

นางสาววรางคณา กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังเตรียมโอนคอนโดมิเนียม เอดจ์ เซ็นทรัล – พัทยา คอนโดไลฟ์สไตล์ใจกลางพัทยา และ ดีคอนโด ไฮด์อเวย์ – รังสิต รองรับการรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ตามเป้าหมายรายได้จากการขายที่วางไว้ 27,600 ล้านบาท ล่าสุด แสนสิริ มี Secured Revenue หรือรายได้ในมือที่รองรับแล้ว 22,600 ล้านบาท หรือคิดเป็น 82% เหลืออีก 18% คาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้ารายได้ที่วางไว้

ปัจจัยผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่องในปี 64 ครึ่งปีหลัง คือ การบริหารเงินสดในมือที่ดี หรือ Cash is King ที่จะส่งผลให้แสนสิริเป็นองค์กรที่มีสภาพคล่องสูงและมีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจ ล่าสุดแสนสิริมีสภาพคล่องในมือรวม 17,000 ล้านบาท ที่มีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจและมีความแข็งแกร่งในทุกสภาวการณ์ พร้อมพรีเซลล์ แบ็กล็อก มูลค่า 24,400 ล้านบาท ที่จะรับรู้รายได้ระยะยาวในอีก 3 ปี