กลุ่มทรูแจงเผยไตรมาส 2/64 กำไรก่อนหักค่าใช้จ่าย หรือ EBITDA เติบโต 12.5% เป็นผลจากธุรกิจมือถือที่ปรับตัวได้เร็ว พร้อมเปิดบริการ True POP-UP Shop ทำสาขานอกห้าง 18 แห่งในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม
เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 64 นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE กล่าวว่า แม้ในสถานการณ์ COVID-19 ที่เป็นช่วงเวลาท้าทายนี้ ก็ยังมีหลายปัจจัยพื้นฐานสำคัญของกลุ่มทรูที่เป็นโอกาสให้กลุ่มทรูสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในทุกกระบวนการเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า
ทำให้เพิ่มความพึงพอใจและสามารถขยายฐานลูกค้าคุณภาพของกลุ่มทรูได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ บรอดแบนด์และดิจิทัลในไตรมาสสองที่ผ่านมา อีกทั้งความมุ่งมั่นที่จะขยายและเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายโทรคมนาคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชาวไทยมั่นใจในการใช้บริการได้อย่างมีคุณภาพโดยเฉพาะช่วงที่ต้องทำงาน และเรียนที่บ้าน
นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่ม ด้านการเงิน บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินในไตรมาส 2/64 ของกลุ่มทรูมีรายได้รวมจำนวน 33,797 ล้านบาท และรายได้จากการให้บริการจำนวน 26,648 ล้านบาท โดยมีฐานผู้ใช้บริการที่เติบโตต่อเนื่องทั้งธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ บรอดแบนด์และดิจิทัล แต่รายได้จากทรูวิชั่นส์ปรับลดลงจากผลกระทบของเศรษฐกิจ และโควิด-19
ขณะเดียวกัน ทรูมูฟ เอช ยังเติบโตได้สูงกว่าอุตสาหกรรม มีรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 จากไตรมาสก่อนหน้า เทียบกับภาพรวมอุตสาหกรรมที่ทิศทางของรายได้ทรงตัวถึงลดลงหากไม่รวมทรูมูฟ เอช (ลดลงร้อยละ 0.3 จากไตรมาสก่อนและร้อยละ 1.8 จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน)
นอกจากนี้ การมุ่งเน้นบริหารต้นทุนและเพิ่ม Productivity อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวมลดลงร้อยละ 11 จากไตรมาสก่อนและร้อยละ 8 จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ผลักดันให้ EBITDA เติบโตร้อยละ 4.5 จากไตรมาสก่อนและร้อยละ 12.5 จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเป็น 14,687 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษี หรือ EBIT เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.1 จากไตรมาสก่อนและร้อยละ 35.4 จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเป็น 3,620 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2564
ทั้งนี้ จุดแข็งของกลุ่มทรูด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและโทรคมนาคมคุณภาพสูงอย่าง 5G, NB-IoT, คลาวด์ และ FTTx รวมถึงคอนเทนต์ยอดนิยมและสื่อดิจิทัลที่ครบครันจาก TrueID ภายใต้ True Digital Group ซึ่งเป็น Super App รองรับทุกความต้องการของผู้ใช้งาน ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าและสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดเสมอมา
โดยเติบโตร้อยละ 77 จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และร้อยละ 15 จากไตรมาสก่อน พร้อมด้วยบริการสตรีมมิงพรีเมียมคอนเทนต์จาก TrueVisions NOW ตลอดจนการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยหนุนให้กลุ่มทรูเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในยุคใหม่ที่การใช้งานดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ กลุ่มทรูยังได้เปิด True POP-UP Shop เป็นช็อปที่กลุ่มทรู เปิดให้บริการทดแทนการปิดสาขาชั่วคราวในห้างสรรพสินค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถสมัครแพ็กเกจเสริม เลือกซื้อสินค้าต่างๆ อาทิ สมาร์ทโฟน สมาร์ทดีไวซ์ แกดเจ็ต ตลอดจนสอบถามข้อมูลและบริการหลังการขาย ทั้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลบริการ ย้ายค่าย และเปลี่ยนซิมใหม่เบอร์เดิม โดยตั้งเป้าจะมีทั้งหมด 60 สาขาทั่วประเทศ ปัจจุบันมีทั้งหมด 18 สาขา (เช็กสาขาได้ที่นี่).