YLG ประเมินราคาทองช่วง เม.ย. 64 เริ่มฟื้น หลังค่าเงินดอลลาร์เริ่มแผ่ว ระยะกลางยังมีแรงขายทำกำไรบ้าง แต่ระยะยาวแข็งแกร่ง แนะจังหวะเก็งกำไรซื้อหากราคาเข้าใกล้ 25,500 บาท หรือขายหากราคายืนเหนือ 26,200 บาท
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเริ่มกลับมามีสัญญาณดีดกลับแม้ระยะสั้น จะมีแรงเทขายสลับออกมา แต่ก็ไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ จึงถือเป็นสัญญาณที่ดี ทำให้ภาพระยะสั้นที่เป็นขาลงพลิกมาเป็นการฟื้นตัว สำหรับการปรับขึ้นของราคาทองคำในช่วงสั้นนี้มาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐถูกขายทำกำไรออกมา หลังจากที่แข็งค่ามาอย่างต่อเนื่องนับจากต้นปี 64
อย่างไรก็ดี ในระยะยาวทองคำยังคงเป็นขาขึ้น เนื่องจากความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อหลังจากการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปริมาณมหาศาลที่จะส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐมีโอกาสอ่อนค่าลงในระยะยาว อีกทั้งปัจจัยด้านการระบาดของ COVID-19 ที่เริ่มกลับมาน่ากังวลในช่วงนี้ก็ยังเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำ ถึงแม้ว่าหลายประเทศจะเริ่มฉีดวัคซีน
แต่ IMF ก็ได้ออกมาเตือนว่ายังคงมีความท้าทาย เนื่องจากแต่ละประเทศมีความคืบหน้าการฉีดวัคซีนไม่เท่ากัน อีกทั้ง IMF ออกมาเตือนว่าปัจจุบันตลาดหุ้นซื้อขายในระดับราคาสูงกว่าปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลว่าตลาดอาจแบกรับความเสี่ยงมากเกินไป โดยปัจจัยเหล่านี้ถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ
นางสาวฐิภา กล่าวอีกว่า แม้ว่าภาพรวมของกองทุนทองคำขนาดใหญ่ เช่น SPDR ยังคงขายทองต่อเนื่องจากต้นปี แต่อุปสงค์การซื้อทองคำจากผู้บริโภค โดยเฉพาะจีนและอินเดีย ยังคงทำการเข้าซื้อเมื่อราคาทองปรับลดลงในระดับต่ำ จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยพยุงราคาทองคำไว้
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำระยะสั้น แนะนำเข้าซื้อที่แนวรับ 1,717 ดออลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,700 ดออลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือเทียบเป็นเงินบาทจะอยู่ใกล้ๆ 25,500 บาทต่อบาททองคำ ส่วนแนวต้านแรกอยู่ที่ 1,762 ดออลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ แนะนำขายหากราคาขึ้นไป 26,200 บาทต่อบาททองคำ แต่หากผ่านได้แนะนำถือต่อ