หุ้นหลบภัยโควิด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 7 เม.ย.64 ปิดที่ 1,556.56 จุด ลดลง 23.10 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 107,774.43 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,722.54 ล้านบาท

ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน ด้านกลยุทธ์ บล.โนมูระ พัฒนสินชี้ว่าดัชนีไม่หลุดจากแนวรับ 1,560-1,550 จุด เนื่องจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ในกลุ่มสีแดงยังมีไม่เกิน 7 จังหวัด จากปัจจุบันมีเพียง 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ, ปทุมธานี, นนทบุรี, สมุทรปราการ, นครปฐม

แต่หากการแพร่ระบาดลุกลาม และมีพื้นที่สีแดงเกิน 10 จังหวัดขึ้นไป อาจกดดันให้ดัชนีฯปรับตัวลดลงต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,540 และ 1,510 จุด ตามลำดับ โดยให้นักลงทุนติดตามความคืบหน้ามาตรการควบคุมการแพร่ระบาดจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพิ่มเติมต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ช่วงดัชนีอ่อนตัว แนะให้ซื้อหุ้นที่ดีกว่าตลาด (Outperform) แนะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ HANA, โรงไฟฟ้า GULF, สื่อสาร INTUCH, เครื่องดื่ม ICHI, SAPPE และหุ้นปันผลสูง KK, SPALI

ส่วน บล.เอเซียพลัส แนะหลบ COVID-19 ช่วงสั้น เข้าหุ้นมีแรง บวกเฉพาะตัว เลือก STGT, STEC น่าลงทุน โดยระบุว่า การระบาดของ COVID-19 ระลอก 3 ในไทย น่าจะสร้างความผันผวนให้ตลาดหุ้นในระยะสั้น โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมือง, หุ้นที่มีรายได้หลัก ในพื้นที่กรุงเทพฯ ฯลฯ หากเปรียบเทียบกับการติดเชื้อระลอก 2 วันที่ 21 ธ.ค.63 หลังจากนั้นตลาดหุ้นไทยปรับฐานแรงเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น แล้วตลาดค่อยๆฟื้น เนื่องจากการควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อทำได้อย่างรวดเร็ว ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,537 จุด กลยุทธ์ระยะสั้น หลบ COVID-19 เข้าหุ้นมีแรงบวกเฉพาะตัว STGT, STEC!!

ปิดท้ายมีข่าวหุ้น BEAUTY โดย ดร.พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ รองซีอีโอ BEAUTY เผยปีนี้มีแผนแต่งตั้ง Distributor รายใหญ่ 8 ราย ที่มีเครือข่ายครอบคลุมร้านค้าทั่วประเทศมากกว่า 16,000 ร้านค้า เป็น 3.5% ของร้านค้าปลีกรายย่อยทั่วประเทศ หวังรุกตลาดร้านค้าปลีก รายย่อยในประเทศ ซึ่งถือว่ายังมีโอกาสเติบโตในช่องทางนี้อีกมาก

อีกทั้งจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น ประกอบกับสินค้า BEAUTY ยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคเนื่องจากมีคุณภาพและราคาไม่แพง ตอบโจทย์กำลังซื้อปัจจุบันของผู้บริโภค!!

อินเด็กซ์ 51