นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า S&P Global ผู้ให้บริการข้อมูลด้านการเงิน และการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนีความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจของบริษัททั่วโลก (DJSI) หรือดัชนีดาวโจนส์ยั่งยืน ได้เผยแพร่รายชื่อบริษัทชั้นนำด้านความยั่งยืน ในรายงาน The Sustainability Yearbook 2021 โดยมีบริษัทชั้นนำที่ได้รับการประเมินทั้งสิ้น 7,033 บริษัท ใน 40 ประเทศทั่วโลกและมีบริษัทที่ได้รับการบันทึกอยู่ใน The Sustainability Yearbook 2021 จำนวน 631 บริษัท ซึ่งปรากฏว่า มีบริษัทไทยมากถึง 29 บริษัท (รวม Thai BEV) ถือเป็นอันดับ 7 ของโลก รองจากอันดับหนึ่งคือ สหรัฐอเมริกา 92 บริษัท ญี่ปุ่น 78 บริษัท เกาหลีใต้ 30 บริษัท อังกฤษ 37 บริษัท ฝรั่งเศส 35 บริษัท ไต้หวัน 32 บริษัท และไทย 29 บริษัท
ทั้งนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ S&P Global ได้สะท้อนผลการประเมินระดับความยั่งยืนเทียบชั้นระดับสูงสุดคือ Gold class, Silver class และ bronze class ซึ่งปรากฏว่ามีบริษัทไทยได้รับการประเมินความยั่งยืนอยู่ระดับสูงสุดคือ Gold class (รวม บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ) มากที่สุดถึง 11 บริษัทมากกว่าสหรัฐฯ ที่มีบริษัทที่ได้รับการประเมินเทียบชั้นระดับสูงสุด Gold class เพียง 9 บริษัท ตามด้วย ญี่ปุ่น 6 บริษัท เกาหลีและไต้หวันประเทศละ 4 บริษัท
“สะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจไทยเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนระดับโลก ดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อเศรษฐกิจสังคมสิ่งแวดล้อมและมีธรรมาภิบาล สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของตลาดหลักทรัพย์ที่ได้สนับสนุนแนวทางดังกล่าว”
ทั้งนี้ บริษัทที่ได้รับการประเมินความยั่งยืนระดับ Gold class ประกอบด้วย บมจ.บ้านปู (BANPU), บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป (BTS), บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC), บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP), บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC), บมจ.ปตท. (PTT), บมจ.ไทยออยล์ (TOP) บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU), บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC), บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ.