มุมมองโกลเบล็ก

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 ก.พ.64 ปิดที่ 1,518.27 จุด เพิ่มขึ้น 1.84 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 92,889.81 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,090.81 ล้านบาท

หุ้นซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 41 บาท บวก 0.75 บาท, KBANK ปิดที่ 146 บาท ลบ 1 บาท, BBL ปิด 128 บาท ลบ 1.50 บาท, SC ปิด 80.50 บาท บวก 3.25 บาท และ BANPU ปิด 11.30 บาท บวก 0.40 บาท

หุ้นไทยทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,529 จุด แต่โดนแรงเทขายทำกำไรออกมา ทำให้ดัชนีปรับขึ้นได้ไม่มาก แม้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นพลังงานช่วยหนุนตลาด โดยราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นยังคงเป็นแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวขึ้น

บล.โกลเบล็ก ประเมินทิศทางหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งในกรอบ 1,500–1,550 จุด มีปัจจัยบวกหลังกระทรวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน ม.ค. –0.34% YoY พิษโควิดส่งผลให้การใช้จ่ายและการผลิตชะลอตัว แต่เงินเฟ้อ +0.09% MoM ขณะที่คาดการณ์เงินเฟ้อเดือน ก.พ.ยังมีแนวโน้มหดตัว แต่เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น

และประเทศไทยยืนยันคำสั่งซื้อวัคซีนของซิโนแวค 2 ล้านโดสตามข้อตกลง โดยจะส่งลอตแรกเข้ามาภายใน ก.พ. ส่วนบอร์ดโรคติดต่อเคาะแผนกระจายวัคซีนโควิด-19 จำนวน 63 ล้านโดส ภายในปี 64

ประกอบกับรัฐบาลโยกเงินกู้ฟื้นฟูอีก 4 หมื่นล้านบาท จ่ายเยียวยา “ม.33 เรารักกัน” และมีแผนดึงเงินกู้โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจฯ ที่อนุมัติไปแล้ว แต่ยังไม่ใช้กลับคืนเพื่อตุนไว้รับมือโควิดที่ยังไม่แน่นอน ขณะที่ปัจจัยในประเทศนักลงทุนยังติดตามการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด

ฝ่ายกลยุทธ์ยังคงแนะลงทุนในหุ้นที่ได้ผลดีจากนโยบาย “โจ ไบเดน” ได้แก่ BGRIM-GPSC-EA-RATCH-BCPG และหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการกลุ่มโรงกลั่นและกลุ่มโรงไฟฟ้าจะปรับตัวดีขึ้นได้แก่ PTTGC-SPRC-TOP-BGRIM-BCP-IRP

ขณะที่ ธนาคารทิสโก้เตือนลูกค้าชะลอลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังราคาหุ้นขึ้นมามากเมื่อเทียบกับในอดีต อาจทำให้กำไรของธุรกิจวิ่งตามไม่ทันราคาหุ้น แถมยังต้องเผชิญปัจจัยลบจากดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ขยับตัวเพิ่มขึ้น กดดันมูลค่าหุ้นในอนาคต!!

อินเด็กซ์ 51