พลังงานมาแรงพาหุ้นไทยวันนี้สดใส ปิดตลาดที่ 1,506 จุด ปรับขึ้น 38.41 จุด

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

พลังงานมาแรงพาหุ้นไทยวันนี้สดใส ปิดตลาดที่ 1,506 จุด ปรับขึ้น 38.41 จุด

Date Time: 5 ม.ค. 2564 17:21 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • หุ้นไทยวันนี้แสนสดใส กลุ่มพลังงานมาแรง พา SET ปรับขึ้น 38.41 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,506 จุดหุ้นเดลต้าปรับบวก 128 บาท ขณะที่ บล.GBS ให้กรอบสัปดาห์นี้ที่ระดับ 1,450-1,500 จุด

หุ้นไทยวันนี้แสนสดใส กลุ่มพลังงานมาแรง พา SET ปรับขึ้น 38.41 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,506 จุด หุ้นเดลต้าปรับบวก 128 บาท ขณะที่ บล.GBS ให้กรอบสัปดาห์นี้ที่ระดับ 1,450-1,500 จุด

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ช่วงครึ่งวันบ่าย ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 38.41 จุด เปลี่ยนแปลง +2.62% ดัชนีอยู่ที่ 1,506.65 จุด มูลค่าการซื้อขาย 115,299.85 บาท

ทั้งนี้ พบว่าหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขาย 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA 2. บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC 3. บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA และ 5. บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF

อย่างไรก็ตาม พบว่า หุ้น DELTA ปิดตลาดราคาอยู่ที่ 656 บาท ปรับขึ้น 128 บาท โดยราคาเปิดตลาดของวันนี้อยู่ที่ 556 บาท และราคาต่ำสุดของวันอยู่ที่  530 บาท 



วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีในเดือนม.ค. 64 นี้ ยังผันผวนตามปัจจัยกดดันของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในต่างประเทศ และในไทยก็มีการระบาดรอบใหม่เกิดพร้อมกันใน 54 จังหวัดทำให้มีการแบ่งโซนพื้นที่และเข้มงวดมากขึ้น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดแม้จะไม่มีการประกาศล็อกดาวน์ก็ตาม

ขณะเดียวกัน สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่อาจปะทุอีกครั้ง จากนโยบายถอดหุ้นบริษัทจีนออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก และทิศทางค่าเงินบาทในปี 2564 มีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์

ดังนั้นในรอบสัปดาห์นี้ (4-8 ม.ค.64) คาดการณ์กรอบการแกว่งตัวของดัชนีไว้ที่ระดับ 1,450-1,500 จุด ส่วนดัชนีทั้งปี 64 คาดว่ามีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ 1,470-1,650 จุด โดยเป็นการอิง PE ที่ระดับ 16-18 เท่า และมี EPS Growth 15% รวมทั้งคาดการณ์ GDP ที่ 4%

สำหรับกลยุทธ์ทยอยสะสมหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีแบ่งเป็น 3 กลุ่มเด่น โดยกลุ่มแรกหุ้น Defensive และได้ผลดีจากนโยบายไบเดน เช่น BGRIM และ GPSC กลุ่มที่ 2 หุ้น Laggard play เช่น ADVANC, INTUCH และ BBL และกลุ่มที่ 3 หุ้น Value play เช่น STANLY, IRC, TSC, JUBILE, XO, BIZ, SKN, LALIN และ HARN


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ