ทรีนีตี้ มองแนวโน้มหุ้นไทย ธ.ค. 63 แนะนักลงทุนลดน้ำหนักหุ้นไทยเหลือ 5%

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ทรีนีตี้ มองแนวโน้มหุ้นไทย ธ.ค. 63 แนะนักลงทุนลดน้ำหนักหุ้นไทยเหลือ 5%

Date Time: 6 ธ.ค. 2563 15:00 น.

Video

บิทคอยน์ VS เงินในกระเป๋าเกี่ยวกันยังไง ? | Digital Frontiers

Summary

  • ทรีนีตี้ แนะใช้จังหวะครึ่งแรกของเดือน ธ.ค. 63 ลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยเหลือ 5% เหตุมูลค่าอยู่ในระดับสูง คาดปลายปีกองทุนขนาดใหญ่ของโลกมีโอกาสปรับพอร์ตเข้าสู่ตราสารหนี้มากขึ้น

Latest


ทรีนีตี้ แนะใช้จังหวะครึ่งแรกของเดือน ธ.ค. 63 ลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยเหลือ 5% เหตุมูลค่าอยู่ในระดับสูง คาดปลายปีกองทุนขนาดใหญ่ของโลกมีโอกาสปรับพอร์ตเข้าสู่ตราสารหนี้มากขึ้น

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า ทิศทางการลงทุนในเดือน ธ.ค. 63 นี้ ทรีนีตี้แนะนำปรับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยลงเหลือ 5% จากเดือนก่อนที่ให้น้ำหนักการลงทุนไว้ 15% และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกเป็น 15% จากที่เดือนก่อนไม่แนะนำ

นอกจากนี้ ควรเพิ่มสัดส่วนการถือครองเงินสดเป็น 40% จาก 35% ส่วนการลงทุนในทองคำและบิตคอยน์ ให้น้ำหนักเท่าเดิมที่ 10% ซึ่งในกรณีที่ราคาทองคำลดลงต่ำกว่า 1,800 เหรียญฯต่อออนซ์ แนะนำให้นักลงทุนที่มีสัดส่วนการลงทุนอยู่ในทองคำในระดับต่ำเพิ่มทองคำเข้าพอร์ตได้

ทั้งนี้ เพราะเชื่อว่าในภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรแท้จริงยังอยู่ในระดับต่ำนั้น ทองคำยังคงมีความน่าสนใจ และยังสามารถกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมได้อีกด้วย

สำหรับเหตุผลที่ปรับลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยลงเหลือ 5% เพราะต้องยอมรับว่าหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อนแรงมากในเดือน พ.ย.กว่า 20% นำโดยหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มวัฏจักร ตามความคาดหวังของวัคซีนต้านโควิด-19 เป็นสำคัญ

โดยมองว่าเดือน ธ.ค. หุ้นไทยจะชะลอความร้อนแรงลง ประกอบกับการไหลเข้ามาของเงินทุนต่างชาติที่น่าจะเริ่มลดลง จากแพ็กเกจดูแลค่าเงินบาทของ ธปท.ที่เตรียมออกมา และช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปีที่เป็นเทศกาลวันหยุดยาว

นอกจากนี้ เราอาจเห็นการปรับพอร์ตของกองทุนขนาดใหญ่ของโลกในช่วงปลายปีเพื่อล็อกกำไรจากหุ้น โดยการโยกเงินเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้นแทน หลังจากที่หุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อนแรง ด้วยเหตุนี้ ยังไม่แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในช่วงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนระยะกลางและยาว คาดในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้าดัชนีมีโอกาสย่อตัวลงมา ซึ่งจะเป็นโอกาสในการเลือกหุ้นเข้าพอร์ตได้ดีกว่า

นายณัฐชาต กล่าวว่า เราประเมินกรอบแนวต้านแรกของดัชนีหุ้นไทยในเดือน ธ.ค.ที่ 1,450-1,460 จุด และแนวต้านสำคัญที่ 1,500 จุด ขณะที่แนวรับแรกประเมินที่ 1,400 จุด และแนวรับสำคัญที่ 1,330 -1,350 จุด ซึ่งเป็นแนวรับที่สามารถเข้าซื้อหุ้นได้

สำหรับหุ้นแนะนำในเดือน ธ.ค. 63 หากต้องการเข้าซื้อหุ้นในช่วงนี้จริง มองไปยังหุ้นเติบโตหรือ Growth stock ที่อยู่ในช่วงพักฐาน โดยมองว่าสภาพแวดล้อมต่างๆ ในปัจจุบันยังคงสนับสนุนการปรับตัวของหุ้นกลุ่มนี้ในช่วงถัดไปได้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่ยังคงมีอัตราการเติบโตต่ำหรือติดลบ รวมไปถึงระดับเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำหรือติดลบเช่นกัน มองตัวหุ้นที่น่าสนใจในกลุ่มนี้ ได้แก่ KCE และ STGT เป็นต้น.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ