ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 24 พ.ย.63 ปิดที่ 1,401.63 จุด ลดลง 18.80 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 102,775.11 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 4,008.74 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนกลุ่มอื่นๆซื้อสุทธิ นำโดยรายย่อยซื้อสุทธิ 3,514.14 ล้านบาท ขณะที่ต่างชาติซื้อสุทธิ 393.47 ล้านบาท
“พจน์ หะริณสุต” ซีอีโอ บลจ.วรรณ มองการลงทุนสัปดาห์นี้หุ้นทั่วโลกปรับขึ้นจากความคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จากวัคซีนต้าน Covid-19 ที่มีประสิทธิภาพสูงประกอบกับรัฐบาลและธนาคารกลางประเทศต่างๆมีแนวโน้มใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง หนุนให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นแต่ยังคงต้องติดตามความเสี่ยงของ Covid-19 โดยเฉพาะไตรมาส 4 ที่หลายเมืองเริ่มกลับมา Lockdown อีกครั้ง
“มีข่าวเชิงบวกความคืบหน้าวัคซีน ทำให้คาดหวังการกลับสู่ภาวะปกติและเคลื่อนย้ายเงินลงทุนเข้าหุ้นกลุ่ม Old Economy เช่น ธนาคารพลังงานเนื่องจากราคาปรับลงมาอยู่ในระดับที่น่าลงทุนระยะยาว แม้การเติบโตของกำไรยังไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่ม New Economy อาทิ เทคโนโลยี สินค้าฟุ่มเฟือย”
ส่วนการลงทุนหุ้นไทย สัปดาห์นี้ให้กรอบดัชนี 1,380-1,450 จุด โดยเริ่มเห็น Fund Flows ไหลกลับเข้า Emerging Marketsและไหลกลับเข้าหุ้นไทยสูงขึ้น รับข่าวความคืบหน้าวัคซีน ประกอบกับสถานะการถือครองหุ้นไทยของต่างชาติต่ำมากเมื่อเทียบกับในอดีต แต่หุ้นไทยยังต้องเผชิญความท้าทายเชิงปัจจัยพื้นฐาน โดยอาจต้องรอจนวัคซีนใช้งานจริงอย่างแพร่หลาย ราวกลางปีหน้า ถึงจะพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับมาจำนวนมากอีกครั้ง
ระยะสั้นอาจระมัดระวังการลงทุนในหุ้นไทยแต่หากดัชนีปรับลงมาแตะแนวรับ แนะให้ทยอยสะสมได้ ส่วนผู้ที่รับความเสี่ยงได้ แนะกระจายพอร์ตลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ
มีข่าว BDMS แจ้งตลาดว่า บริษัทได้ทำสัญญาขายหุ้น BH ที่บริษัทถืออยู่ 180.715 ล้านหุ้น หรือ 22.71% ให้ผู้ซื้อหุ้นละ 103 บาท เป็นเงิน 18,613.7 ล้านบาท เมื่อ 19 พ.ย.63 และวันที่ 24 พ.ย.63 บริษัทได้รับการยืนยันจากผู้ซื้อ เกี่ยวกับความแน่นอนของแหล่งเงินทุน โดยจะขาย BH บางส่วนผ่านกระดาน Big Lot 90.50 ล้านหุ้น ที่ราคา 103 บาท/หุ้น มูลค่า 9,321.5 ล้านบาท ในวันที่ 26 พ.ย.63
ส่วนที่เหลืออีก 90.215 ล้านหุ้น คาดจะซื้อขายแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.63 โดยยังมีความไม่แน่นอนในการจัดหาแหล่งเงินทุนของผู้ซื้อ!!
อินเด็กซ์ 51