แบงก์ชาติ ก.ล.ต. จับมือ บีซีไอ (ประเทศไทย) ดึงเทคโนโลยีบล็อกเชนให้บริการหนังสือรับรองทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ ลดระยะเวลา ลดความเสี่ยงในการปลอมแปลงเอกสารในการตรวจสอบบัญชี คาดพร้อมให้ใช้บริการได้ในไตรมาส 3 ปี 64
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ร่วมกับ บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด ได้พัฒนาและนำกระบวนการ การออกหนังสือรับรองทางการเงิน หรือ Bank Confirmation มาพัฒนาร่วมกับเทคโนโลยี Blockchain
ทั้งนี้ เพื่อเข้ามาสนับสนุนการทำงานของผู้สอบบัญชีและธนาคารในการตรวจสอบบัญชีของบริษัท หรือเรียกว่าโครงการหนังสือรับรองทางการเงินผ่านระบบบล็อกเชน หรือ Bank Confirmation on Blockchain ซึ่งโครงการแล้วเสร็จพร้อมใช้งานได้ในไตรมาส 3 ปี 2564
โดยในอนาคตจะมีโอกาสเปิดให้ภาคธุรกิจส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องกับหนังสือรับรองทางการเงิน เช่น บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บริษัทผู้ให้บริการสินเชื่อ (ลิสซิ่ง) กลุ่มประกันภัย เข้ามาร่วมใช้บริการ โดยเทคโนโลยี Blockchain จะเข้ามาช่วยบริหารจัดการธุรกรรมและการขอข้อมูลจากธนาคารและสถาบันการเงินให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ป้องกันการปลอมแปลงข้อมูล ขณะที่ผู้สอบบัญชี และสถาบันการเงินสามารถเชื่อมต่อเข้ามาใช้บริการ blockchain ผ่าน website ที่ผ่านการตรวจสอบแล้วได้อย่างปลอดภัย สะดวก รวดเร็วและง่ายต่อการใช้งาน
สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือในภาคธนาคารเพื่อให้บริการการยืนยันข้อมูลทางการเงินผ่านระบบบล็อกเชนนั้น จะช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ให้กับภาคการเงิน ภาคธุรกิจ และภาคการบัญชีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีที่ขอยืนยันข้อมูลบัญชีซึ่งเป็นลูกค้าของธนาคารและช่วยลด operation cost ของธนาคารในการตรวจสอบลายเซ็นบนเอกสารมอบอำนาจของบริษัท
นอกจากนี้ยังลดขั้นตอนและกระบวนการภายในของธนาคารในการขอยืนยันข้อมูลทางการเงินอีกด้วย ซึ่งในอนาคตระบบ Bank confirmation on Blockchain ยังสามารถต่อยอดไปในการขอสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่องของบริษัทให้สามารถขอสินเชื่อกับธนาคารได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
ธวัชชัย เกียรติกวานกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. กล่าวว่า การมีระบบ Bank Confirmation on Blockchain จะช่วยให้ผู้สอบบัญชีได้รับข้อมูลจากธนาคารได้อย่างรวดเร็ว และมีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น
ทั้งนี้ จะช่วยแก้ปัญหาในทางปฏิบัติที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเกี่ยวกับความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลที่ได้รับจากธนาคาร และสามารถป้องกันการทุจริตได้ ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพของรายงานทางการเงิน รวมทั้งเพิ่มความโปร่งใสและน่าเชื่อถือของรายงานทางการเงิน และเป็นกลไกที่สำคัญในการคุ้มครองผู้ลงทุน
ศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของบริษัทที่เป็นผู้ให้บริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนระบบบล็อกเชนเป็นรายแรกของโลก ซึ่งได้เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีธนาคารและบริษัทชั้นนำในประเทศเข้าร่วมใช้บริการเป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ระบบหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนระบบบล็อกเชนมีจุดเริ่มต้นมาจากความร่วมมือกันของสถาบันทางการเงินและภาคธุรกิจ ที่ต้องการสร้างมาตรฐาน ความสะดวก ปลอดภัย และลดต้นทุนในการจัดการเอกสารในรูปแบบกระดาษ จากการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐาน (shared infrastructure) และเทคโนโลยี Blockchain ร่วมกัน ทำให้เพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจและยกระดับการบริการทั้งทางภาครัฐและภาคเอกชน
สิริวัฒน์ เกียรติเจริญสิน ผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความสำเร็จของโครงการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนระบบบล็อกเชน นำมาสู่การต่อยอดเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ในการพัฒนาหนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Confirmation) ซึ่งในปัจจุบันพบว่ายังมีอุปสรรคในขั้นตอนการขอหนังสือรับรองทางการเงินที่ค่อนข้างใช้ระยะเวลาค่อนข้างมาก มีความหลากหลายของเอกสาร และข้อมูลไม่ครบถ้วนต้องดำเนินการขอใหม่ และใช้ระยะเวลาเพิ่มเติมในการตรวจสอบบัญชี.