อินโดรามา เวนเจอร์ส เข้าร่วม GPAP เดินหน้าสนับสนุนการจัดการขยะพลาสติก

อินโดรามา เวนเจอร์ส สนับสนุนการจัดการขยะพลาสติก พร้อมเข้าร่วม GPAP เพิ่มกำลังการรีไซเคิลอย่างน้อย 750,000 ตันต่อปี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวภายในปี 68

ยาโชวาดัน โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL กล่าวว่า เรารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน Global Plastic Action Partnership หรือ GPAP ของสภาเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะช่วยส่งเสริมเป้าหมายที่มีร่วมกัน คือ การลดขยะพลาสติก

ทั้งนี้ จากความพยายามหาแนวร่วมของ World Economic Forum ทำให้จีพีเอพีได้รับความร่วมมือทั้งจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม ในการผลักดันแนวทางจัดการที่ครอบคลุมทั้งระดับประเทศและระดับโลก โดยโรงงานรีไซเคิลของ IVL ที่ดำเนินงานทั่วโลก สามารถเติมเต็มวงจรการรีไซเคิลให้สมบูรณ์ และส่งมอบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนสำหรับบรรจุภัณฑ์ PET หรือ Polyethylene Terephthalate

อย่างไรก็ตาม เราได้ผลิตพลาสติก PET ที่มีลักษณะเฉพาะ และสามารถรีไซเคิล PET เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการใช้เป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับเครื่องดื่ม และเป็นบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ถูกเก็บรวบรวม และรีไซเคิลมากที่สุดในโลก ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเราในการส่งมอบคุณค่าเพิ่มให้กับลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์รีไซเคิลที่ยั่งยืน

โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา IVL ได้รีไซเคิลขวด PET ไปแล้วกว่า 50,000 ล้านขวด นับตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจรีไซเคิลในปี 2554 และเรายังคงดำเนินการต่อ เนื่องจาก PET เป็นวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้เต็มรูปแบบ โดยเราตั้งเป้าที่จะเพิ่มการรีไซเคิลให้ได้เป็น 50,000 ล้านขวดต่อปี ภายในปี 2568

ทั้งนี้ เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการรีไซเคิลที่โลกต้องการ ทั้งนี้ จีพีเอพี จะร่วมกันนำการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน และช่วยให้คนทั่วโลกเข้าใจถึงประโยชน์ของการดำเนินการรีไซเคิลแบบครบวงจร

สำหรับการเข้าร่วม Global Plastic Action Partnership นับเป็นการแสดงจุดยืนและความมุ่งมั่นของอินโดรามา เวนเจอร์ส ด้านความยั่งยืน และเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน"

ทั้งนี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส มีโรงงานรีไซเคิลในประเทศเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา บราซิล ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ประเทศไทย และกำลังสร้างโรงงานแห่งใหม่ในฟิลิปปินส์ คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2564 โดยในปี 2563 อินโดรามา เวนเจอร์ส ประกาศความมุ่งมั่นในการเพิ่มกำลังการรีไซเคิล PET เป็น 750,000 ตัน ภายในปี 2568 พร้อมลงทุนถึง 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว