ทยอยสะสมที่ 1,250–1,280 จุด!!

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ทยอยสะสมที่ 1,250–1,280 จุด!!

Date Time: 19 ก.ย. 2563 05:01 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 ก.ย.63 ปิดที่ 1,288.39 จุด เพิ่มขึ้น 3.99 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 49,975.26 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,183.31 ล้านบาท

Latest

เก็บหุ้นปันผล


ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 ก.ย.63 ปิดที่ 1,288.39 จุด เพิ่มขึ้น 3.99 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 49,975.26 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,183.31 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด BBL ปิด 101 บาท บวก 2 บาท, CRC ปิด 28 บาท ลบ 0.50 บาท, PTT ปิด 35.25 บาท ลบ 0.50 บาท, TASCO ปิด 16 บาท ลบ 0.50 บาท และ AOT ปิด 60.25 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

บล.ทิสโก้ แนะทยอยสะสมหุ้น “เพื่อลงทุน” ที่ดัชนีระดับ 1,250-1,280 จุด โดย “อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล” ระบุว่า ปัจจัยที่ต้องติดตามหลังเดือน ก.ย. อยู่ที่ปัจจัยการเมืองในประเทศ ทั้งการชุมนุมวันที่ 19 ก.ย. และการประชุมสภาวันที่ 23-24 ก.ย. ว่าจะมีการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ และในมาตราใด

ขณะที่การเมืองในต่างประเทศก็มีแนวโน้มดุเดือด ทั้งการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน รวมทั้งความไม่แน่นอนของผลการเจรจา Brexit ล้วนสร้างความผันผวนให้ตลาดช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า

บล.ทิสโก้ มองดัชนีที่ 1,250-1,280 จุด เป็นระดับที่น่าทยอยซื้อสะสม “เพื่อการลงทุน” อิงจาก 1.ระดับค่าเฉลี่ยอัตราราคาต่อกำไรล่วงหน้า 12 เดือน ที่ปัจจุบันขยับขึ้นมาอยู่ที่ 16-17 เท่า จากเดิม 15-16 เท่า ช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งจะได้ดัชนีที่เหมาะสม 3 เดือนข้างหน้า ที่ 1,221-1,297 จุด และควรอยู่สูงกว่าระดับ 1,300 จุดขึ้นไปในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า และ 2.การพักตัวทางเทคนิคหุ้นไทยมีแนวโน้มพักตัวที่ระดับ 38.2% คิดเป็นดัชนีที่ 1,269 จุด

ทั้งนี้ ยังมีความเป็นไปได้น้อยที่ดัชนีจะหลุดต่ำกว่า 1,250 จุดลงมา 1,200 จุดต้นๆ ยกเว้นการชุมนุมมีความรุนแรงถึงขั้นนองเลือด หรือเกิดการแพร่ระบาดรอบ 2 จนทำให้ต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง

ด้วยภาวะตลาดมีแนวโน้มแกว่งซึมลง มูลค่าซื้อขายถดถอยลงเรื่อยๆ เชื่อว่าจะเห็นการโยกเงินเวียนกลุ่มลงทุนไปเรื่อยๆ มองหุ้นที่น่าสะสม “เพื่อการลงทุน” เน้นหุ้นที่ราคายังปรับขึ้นน้อยกว่าตลาด แต่แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังฟื้นตัว หุ้นเด่นคือ AEONTS, BAM, BDMS, BEM, CPALL, KTC, MTC และ WHA และทยอยเก็บหุ้นปันผลที่คาดจะให้อัตราเงินปันผลเฉลี่ยมากกว่า 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, LH, QH, NYT, PROSPECT, RATCH และ TVO

ส่วนหุ้นเก็งกำไรระยะสั้นได้แก่ หุ้นรับอานิสงส์ข่าววัคซีนและการเริ่ม เปิดรับนักท่องเที่ยวแบบพิเศษ ได้แก่ AOT, BDMS, CENTEL และ SPA, หุ้นเก็งประเด็น Window Dressing–BCH, BGRIM, BJC, CBG, EPG, GULF และ ORI หุ้นที่ประเมินเบื้องต้นว่างบ 3Q20F จะออกมาดีทั้ง YoY และ QoQ–BGC, DELTA, KCE, KTC, MTC, PRM และ SYNEX!!

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ