ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 8 ก.ย.63 ปิดที่ 1,293.80 จุด ลดลง 18.15 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 45,368.66 ล้านบาท สถาบันและกองทุนในประเทศขายสุทธิหนักสุด 2,182.75 ล้านบาท ขณะที่ต่างชาติขายสุทธิ 126.31 ล้านบาท
ตลาดปรับตัวลงแรงหลังกังวลกับสถานการณ์การเมืองในประเทศการนัดชุมนุมใหญ่และข่าวลือการทำรัฐประหาร ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างจีน-สหรัฐฯได้ขยายความรุนแรงบานปลายจากสงครามการค้าไปสู่สงครามเทคโนโลยี
บล.เอเซียพลัส ระบุว่าช่วงวันหยุดที่ผ่านมาสินทรัพย์เสี่ยง ตลาดหุ้นโลก ฯลฯ และสินค้าโภคภัณฑ์ปรับฐานแรงโดยมีปัจจัยกดดันจากความกังวล Tech War ระหว่างสหรัฐฯ-จีนกลับมาอีกครั้ง ล่าสุดกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯพิจารณาขึ้นบัญชีดำบริษัท SMIC ซึ่งผู้ผลิตชิป หรือ Semiconductor อันดับ 1 ของจีน
ผลต่อไทยคือ SVI ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างผลิตและประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ประเมินว่าไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมิได้ทำการค้ากับ SMIC และในระยะยาวมองเป็นบวก คาดว่า Tech war ที่ร้อนแรง ทำให้มีโอกาสที่จะเห็นบริษัทในจีนจะย้ายการผลิตออกจากจีนมาแถบเอเชีย รวมถึงไทยเพิ่มขึ้น เป็นโอกาสของ SVI ซึ่งปัจจุบันเพิ่งได้ลูกค้าจีน 3 ราย แต่สัดส่วนยังน้อย ปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่ SVI อยู่ในสแกนดิเนเวีย 50% ยุโรป 30%, สหรัฐฯ 8% ยังแนะนำ “ซื้อ”
นอกจากนี้ ยังมีกระแสการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ประเทศ ล่าสุดช่วงหยุดสุดสัปดาห์ สปป.ลาว ถูก Moody’s ปรับลด Rating ประเทศลง 2 ขั้น จาก B3 ลงมาอยู่ที่ Caa2 ระดับ Junk Bond และเป็นระดับความเสี่ยงสูง สำหรับประเทศไทย เอเซียพลัสประเมินว่ายังต้องติดตามใกล้ชิดให้น้ำหนักช่วง ต.ค.-ธ.ค. ซึ่งจะเป็นช่วงที่ Credit Rating Agency แต่ละแห่งเริ่มเผยแพร่การปรับปรุง Credit Rating ปัจจุบัน Moody’s มีมุมมอง Credit Rating ไทยที่ BBB+ ขณะที่ Outlook ประเทศ ยังคงที่ Stable
หากพิจารณาปัจจัยแวดล้อมของไทยถือว่ายังแข็งแกร่งกว่าลาวมาก จากดุลบัญชีเดินสะพัดยังเกินดุล ล่าสุดเดือน ก.ค. ราว 5.6 หมื่นเหรียญฯ และ Ytd เกินดุลราว 4.37 หมื่นเหรียญฯ ทุนสำรองระหว่างประเทศยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2.51 แสนล้านเหรียญ ทำจุดสูงเป็นประวัติการณ์
แต่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 63 หดตัวแรงมากที่สุดในเอเชีย Consensus คาดเฉลี่ย–7.3% และแนวโน้มการขาดดุลการคลังที่เพิ่มขึ้นจาก พ.ร.ก. 1 ล้านล้านบาท และมีโอกาสกู้มากกว่านั้น ทำให้ หนี้สาธารณะมีโอกาสเกินเพดานที่ 60% ล่าสุดอยู่ที่ 45.83% ของ GDP ทำให้มีความเสี่ยงจะถูกปรับ Credit Rating ลง!!
อินเด็กซ์ 51