หุ้นแบงก์ได้ประโยชน์

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

หุ้นแบงก์ได้ประโยชน์

Date Time: 29 ส.ค. 2563 05:01 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 28 ส.ค.63 ปิดที่ 1,323.31 จุด ลดลง 3.50 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 54,673.10 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,816.77 ล้านบาท

Latest

เก็บหุ้นปันผล

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 28 ส.ค.63 ปิดที่ 1,323.31 จุด ลดลง 3.50 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 54,673.10 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,816.77 ล้านบาท

บล.โนมูระ พัฒนสินออกบทวิเคราะห์มาตรการรวมหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นบวกเล็กๆ ต่อกลุ่มธนาคาร เพราะช่วยลดโอกาสการตกชั้นเป็น NPLs และช่วยลดภาระการตั้งสำรองต่อกลุ่มธนาคาร โดยมาตรการดังกล่าวมีเวลาเข้าร่วมตั้งแต่ 1 ก.ย.-31 ธ.ค.63

โดยการรวมหนี้รายย่อยอย่างสินเชื่อบัตรเครดิต, สินเชื่อบุคคล, สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัย เป็นเจ้าหนี้รายเดียว และปรับโครงสร้างหนี้ โดยมีการยืดอายุการจ่ายหนี้ รวมถึงคิดอัตราดอกเบี้ยเหลือเพียง MRR rate ซึ่งปัจจุบัน MRR rate ของ 4 แบงก์ใหญ่อยู่ที่ราว 5.75-6.22%

ประเมินว่า ธนาคารที่ได้ประโยชน์มากสุดคือ KTB, SCB, TMB, TISCO และ KKP เพราะมีสัดส่วนลูกหนี้รายย่อยมาก แต่เป็นลบต่อกลุ่มบริหารหนี้และกระทบบัตรเครดิต และสินเชื่อรายย่อย โอกาสในการเติบโตของสินเชื่อจะชะลอลงและ NIM จะไม่กว้างเท่าเดิม

ฝ่ายวิจัยเอเซียพลัส ปรับลด EPS ปี 63 ลงอีกครั้งหนึ่ง ออกมาอยู่ที่ 56.7 บาท/หุ้น เป็น EPS ที่ต่ำสุดนับจากปี 52 ส่วนปี 64 คาดว่า EPS Growth จะอยู่ที่ 28% คิดเป็น EPS ที่ 72.51 บาท/หุ้น ปรับลดประมาณการกำไรปี 63 ลงอยู่ที่ 6.13 แสนล้านบาท (ลดลง 36% เทียบกับปีก่อนหน้า) เป็น EPS63F ที่ 56.65 บาท/หุ้น ต่ำสุดในรอบ 11 ปี

กำหนดเป้าหมาย PER ตลาด โดยให้ Market Earning Yield Gap อยู่ที่ 4.5% จะให้ค่า PER ที่ 20 เท่า หรือ 1,450 จุด สิ้นปี 64 โดยภาพรวมเชื่อว่า SET Index น่าจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น

ขณะที่ความกังวล COVID-19 มีแนวโน้มผ่อนคลายลงเรื่อยๆ บวกกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับจีนมีความคืบหน้าในทิศทางบวกมากขึ้น ทำให้สภาพคล่องส่วนเกินที่ล้นระบบอยู่ตอนนี้ (เงินฝากในระบบที่เร่งตัวขึ้นเร็วจนสูงกว่า Market Cap ของ SET) มีโอกาสไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะหุ้นไทยที่ Laggard กว่าตลาดหุ้นอื่นๆมาก

ประเมินเป้า SET ปี 64 ไว้ที่ 1,450-1,526 จุด ถือเป็นโอกาสดีในการสะสมหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง แนะเลือกลงทุนอ้างอิงตามพอร์ตจำลองเอเซียพลัส ที่ให้น้ำหนักหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวสูงถึง 55% คือ CPF, TFG, CRC, AAV, STGT และ SAT หุ้นปันผลสูง 35% คือ INTUCH, MCS, DCC และหุ้นผันผวนต่ำ 10%

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ