ผลบวกงานไทยแลนด์ โฟกัส

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ผลบวกงานไทยแลนด์ โฟกัส

Date Time: 27 ส.ค. 2563 05:01 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ส.ค.63 ปิดที่ 1,322.55 จุด บวก 6.56 จุดมีมูลค่าการซื้อขาย 48,652.28 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 351.66 ล้านบาท

Latest

เก็บหุ้นปันผล

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ส.ค.63 ปิดที่ 1,322.55 จุด บวก 6.56 จุดมีมูลค่าการซื้อขาย 48,652.28 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 351.66 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด STGT ปิด 70.25 บาท บวก 2.50 บาท, SAWAD ปิด 47.75 บาท บวก 4.25 บาท, AOT ปิด 57 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, PTT ปิด 37 บาท ลบ 0.25 บาท, KBANK ปิด 86 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

งาน โรดโชว์ “ไทยแลนด์ โฟกัส 2020” โรดโชว์ศักยภาพเศรษฐกิจและตลาดทุนไทย งานใหญ่ประจำปีของตลาดหลักทรัพย์กระหึ่มเริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันนี้ 26 ถึง 28 ส.ค.63 ผู้จัดการกองทุนต่างชาติจากทั่วโลกเข้าร่วมรับฟังข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ล้นหลาม

บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุว่าจากสถิติในอดีต 9 ครั้งล่าสุด นับตั้งแต่ปี 54 หลังจากจัดงาน 2 สัปดาห์ พบว่าดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 0.9% ด้วยความน่าจะเป็นราว 67% และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 114 ล้านเหรียญ (ราว 3,700 ล้านบาท)

ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า บริษัทจดทะเบียนที่ขึ้นเวทีวันที่ 26 ส.ค. คือ TU, WHA, AAV, BH, DTC ซึ่งโดยปกติหลังงานนี้ตลาดหุ้นไทยจะดีขึ้น แต่มีตัวแปรที่ต้องติดตาม คือบรรยากาศการเมืองทั้งเรื่องการเตรียมการเพื่อขอแก้รัฐธรรมนูญ และกระแสการเมืองที่อาจมีผลต่อตลาดหุ้น

ขณะที่ บล.เอเซีย พลัส ระบุชี้ว่า ตลาดหุ้นไทยเริ่มดูดีขึ้น จาก 2 เหตุผล คือ 1.ตลาดหุ้นไทย Laggard มากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลก คือ 26 ส.ค.63 หุ้นไทยให้ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปีติดลบ 16.7% (ytd) ซึ่งลดลงมากสุดเป็นอันดับที่ 70 จากตลาดหุ้นทั่วโลกกว่า 93 ตลาด ขณะที่ภาพรวมตลาดหุ้นทั้งในประเทศพัฒนาแล้ว (MSCI World Market) และกำลังพัฒนา (MSCI Emerging Market) ให้ผลตอบแทนพลิกกลับมาเป็นบวก 2.7% (ytd) และบวก 0.01% (ytd) ตามลำดับ

2.Valuation ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้น เนื่องจาก SET Index ปัจจุบัน ปรับฐานลงมาจนมี Market Earning Yield Gap ปี 2564 มากถึง 5% รวมถึงยังเห็น Upside ที่เปิดกว้างจากเป้าหมายของดัชนีปี 64 แบบ Conservative ได้ผลลัพธ์เป้าหมายดัชนี คือ 1,450 จุด (กรณีคงดอกเบี้ย) และ 1,526 จุด (กรณีลดดอกเบี้ย 0.25%)

ดังนั้น ช่วงเวลานี้ถือเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง แนะนำหุ้นที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทั้งกำไรและปัจจัยบวกหนุน อย่าง SAT, AAV และ STGT!!

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ