มีมุมมองน่าสนใจจาก “เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม” รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้นไทยเดือนพฤษภาคมว่า คาดว่าจีดีพี Q1/63 ของไทยที่จะประกาศในวันที่ 18 พ.ค.นี้ จะหดตัว
ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยทั้งปี 63 ยังคงมีมุมมองเดิมจะเข้าสู่ภาวะถดถอย Recession (จีดีพีหดตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า 2 ไตรมาส) จากปัญหาโควิด–19 โดยคาดจีดีพีทั้งปี 63 จะติดลบ 1.4% อย่างไรก็ตาม รอการประกาศจีดีพี Q1/63 จากสภาพัฒน์ วันที่ 18 พ.ค.63
เบื้องต้นเอเซีย พลัส ได้ประมาณการจีดีพีไทยงวด Q1/63 ผ่านข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันอิงจาก Leading Economics Indicator ของไทย ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 63 จะออกมาติดลบ 7% ถือเป็น Downside ต่อประมาณการจีดีพีปี 63 ที่ปัจจุบันคาดว่าจะติดลบ 1.4% เนื่องจากเอเซีย พลัส ยังมีมุมมองว่างวด Q2/63
คาดว่าจะเป็นงวดที่ GDP จะติดลบมากที่สุด และน่าจะเป็น Bottom ของปี และคาดจะค่อยๆดีขึ้นในงวดไตรมาส 3 เป็นต้นไป
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ SET Index ฟื้นขึ้นเร็วราวครึ่งทาง จากจุดต่ำสุดของปีที่ลบ 39% เหลือ ลบ 19% ytd ในยามที่ไร้ Fund Flow หนุน และต่อจากนี้คงต้องกลับมาให้น้ำหนักในเรื่องผลประกอบการหลักเนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศ Earning Season งวด Q1/63
เริ่มจากกลุ่ม ธ.พ. มีกำไรสุทธิในงวด Q1/63 อยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านบาทลดลง 17% yoy เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยต่อจากนี้เป็นการประกาศใน Real Sector หลายกลุ่มโอกาสปรับตัวลงแรงเกิน 40%yoy
ขณะที่กลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี ต้องเผชิญกับผลขาดทุน จากการบันทึกขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันตามราคาน้ำมันดิบ ณ สิ้นงวด Q1/63 ที่ปรับตัวลดลงจาก Q1/62 ราว 25-30 เหรียญฯ รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่ากว่า 2.5 บาท/เหรียญฯ
ส่วนกลุ่มขนส่งทางอากาศ คาดว่าจะลดลงอย่างมีนัยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลกระทบหลักมาจากปริมาณความต้องการเดินทางที่ลดลง โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 อย่างหนัก สะท้อนจากจำนวนผู้ใช้บริการเส้นทางในประเทศ และเส้นทางต่างประเทศของ AOT ที่ลดลง 35.5%yoy และ 22.7% ตามลำดับ
ขณะที่สายการบินคาดว่าจะพลิกจากกําไรใน Q1/62 มาเป็นขาดทุนทุกราย
รวมถึงหุ้นกลุ่มอื่นๆที่กำไรมีโอกาสลดลงทั้ง qoq และ yoy เช่นกัน คือกลุ่มท่องเที่ยว, พลังงาน, อสังหาฯ ฯลฯ.
อินเด็กซ์ 51