นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) เปิดเผยว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ส่งผลให้การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผิดไปจากสภาพปกติและมีความผันผวนสูง ตลาดหลักทรัพย์ฯตระหนักถึงความจำเป็นที่ต้องมีมาตรการดำเนินการ สำหรับใช้กรณีที่มีเหตุที่อาจมีผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อลดผลกระทบ รวมทั้งปรับปรุงเกณฑ์ Circuit Breaker เพิ่มโอกาสแก่ผู้ลงทุนให้มีเวลาวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้น ดังนี้
1.กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับมาตรการดำเนินการเมื่อมีเหตุการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ (Market Disruption) โดยให้คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯตัดสินใจดำเนินมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างเป็นการชั่วคราว เพื่อแก้ไขหรือบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น และกำหนดระยะเวลาบังคับใช้มาตรการชั่วคราวนั้น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
2. การปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการหยุดทำการซื้อขายหลักทรัพย์ (Circuit Breaker) จาก 2 ระดับ เป็น 3 ระดับเป็นการถาวร โดยพบว่า ผลจากการใช้หลักเกณฑ์ชั่วคราวตั้งแต่ 18 มี.ค.63 ที่ผ่านมา เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนมีเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับแนวทางของตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ดังนี้ เกณฑ์เดิมระดับที่ 1 เมื่อดัชนีลดลง 10% ให้หยุดการซื้อขาย 30 นาที และระดับที่ 2 หากดัชนีลงต่อจนถึง 20% ต้องหยุดการซื้อขายอีกครั้งเป็นเวลา 60 นาที ส่วนเกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่เป็นดังนี้ ระดับที่ 1 หากดัชนีลดลง 8% ให้หยุดการซื้อขาย 30 นาที และระดับที่ 2 หากลงต่อจนติดลบ 15% ให้หยุดการซื้อขายอีกครั้งเป็นเวลา 30 นาที และระดับที่ 3 เมื่อกลับมาเปิดการซื้อแล้วดัชนียังลงจนลดลงถึง 20% ให้หยุดการซื้อขายอีก 60 นาที ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ทั้งสองเรื่องได้ผ่านการรับฟังความเห็นและความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. แล้ว โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 15 เม.ย.63 เป็นต้นไป.