ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 7 เม.ย.63 ปิด 1,214.95 จุด เพิ่มขึ้น 76.11 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 98,954.92 ล้านบาท ต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิ 507.19 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด BAM ปิด 23.80 บาท บวก 2.70 บาท, PTT ปิด 38.25 บาท บวก 2.75 บาท, AOT ปิด 57.50 บาท บวก 7.50 บาท, GULF ปิด 162 บาท บวก 13.50 บาท, PTTEP ปิด 86.75 บาท บวก 7.75 บาท
หุ้นไทยบวกแรงรับ ครม. เห็นชอบมาตรการดูแลเยียวยาเศรษฐกิจเฟส 3 วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท ราว 10% ของ GDP แบ่งเป็น 1. พ.ร.ก.กู้เงินวงเงิน 1 ล้านล้านบาท คาดมีผลบังคับใช้ เม.ย.63 และเริ่มกู้เงินได้เดือน พ.ค.63 แบ่งเป็น 6 แสนล้านบาท ดูแลสาธารณสุข เยียวยาประชาชนและเกษตรกร อีก 4 แสนล้านบาท ดูแลเศรษฐกิจชุมชน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในระดับพื้นที่
2.พ.ร.ก.ให้อำนาจ ธปท.ออก Soft Loan ดูแลภาคธุรกิจ SMEs วงเงิน 5 แสนล้านบาท ดอกเบี้ย 2% สำหรับ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท, ให้ ธ.พาณิชย์ และ ธ.รัฐพักชำระหนี้ทั้งเงินต้น-ดอกเบี้ย 6 เดือน ให้ SMEs ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท และลดอัตรานำส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯจากเดิม 0.46% เหลือ 0.23% ของฐานเงินฝาก 2 ปี
3.ออก พ.ร.ก. ดูแลเสถียรภาพภาคการเงินวงเงิน 4 แสนล้านบาท โดยตั้งกองทุนรวม Corporate Bond Liquidity Stabilization Fund และให้ ธปท.ซื้อขายหน่วยลงทุนในกองทุนนี้ 4.ปรับ พ.ร.บ.งบรายจ่ายปี 63 คือ ตัดงบฯของหน่วยงานต่างๆมาเติมในงบกลาง คาดจะมีวงเงินราว 8 หมื่นถึง 1 แสนล้านบาท คาดว่าจะนำมาใช้ต้น มิ.ย.63
บล.เอเซียพลัส ประเมินว่าเม็ดเงินที่ออกมาถือว่ามากพอและครอบคลุมที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยปี 63 แต่ยังให้น้ำหนัก Timeline การเบิกจ่ายและการอัดฉีดเม็ดเงินว่าเป็นไปตามที่วางไว้หรือไม่
ขณะที่ บล.ธนชาตระบุว่า มาตรการเฟส 3 ที่ออกมา และจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงมาก เป็นปัจจัยหนุน Relief Rally ของตลาดหุ้นต่อ มีเป้าหมายทางเทคนิคถัดไปที่ 1,238 จุด แนะนำ Let Profit Run แต่กำหนดจุด “ล็อกกำไร” ที่ดัชนีระดับ 1,175 จุด!!
อินเด็กซ์ 51