ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 19 ก.พ. 63 ปิดที่ 1,505.54 จุด ลดลง 8.14 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 68,726.32 ล้านบาท กองทุนในประเทศขายสุทธิกดตลาด โดยขายสุทธิสูงถึง 4,112.36 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนกลุ่มอื่นๆซื้อสุทธิ นำโดยต่างชาติที่ก่อนหน้านี้ขายสุทธิมาตลอดจู่ๆ พลิกกับมาซื้อสุทธิ 2,479.55 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด BAM ปิด 27.50 บาท ลบ 1.50 บาท, AOT ปิด 67.75 บาท ลบ 1.50 บาท, PTT ปิด 44 บาท บวก 1.25 บาท, SCB ปิด 102.50 บาท บวก 3.50 บาท และ GPSC ปิด 71.75 บาท ลบ 4 บาท
ตลาดภาพรวมผันผวนดีดขึ้นทรุดลงทั้งในแดนบวกและลบ โดยแรงขายหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ายังออกมาต่อเนื่องรวมทั้งหุ้นท่องเที่ยวที่ยังโดนลากยาวไปกับไวรัส Covid-19 ที่ส่งผลกระทบกดเศรษฐกิจไทยทรุดแรง
ขณะที่หุ้นสถาบันการเงินยังทรงๆทรุดๆ แต่หุ้น SCB บวกสวนตลาดมาบวก 3.54% โดยโบรกฯหยวนต้าชี้ว่า SCB มีปัจจัยบวกระยะสั้นรออยู่ คือ การประกาศเงินปันผล 2H62 คาดประกาศสัปดาห์นี้ โดยหยวนต้าคาดจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 4 บาท ให้ Dividend Yield 4% และอาจมีโอกาสที่จะจ่ายเงินปันผลสูงกว่านี้ จากการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินจากการทำ Treasury Stock
แนะกลยุทธ์ด้านเทคนิคสำหรับการลงทุนระยะสั้น หากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นผ่าน 100 บาทได้ มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 105 บาท!!
ส่วน บล.ทิสโก้ ให้คำแนะนำก่อนหน้านี้ โดยแนะแค่ “ถือ” ปรับมูลค่าที่เหมาะสมลดลงเป็น 100 บาท (GGM) หลัง SCB ประกาศลดดอกเบี้ย MLR ลง 25bps พร้อมเงินฝากบางส่วน มองกระทบผลประกอบการ 2020F ราว 3% โดยมีความเสี่ยงคือ OPEX ที่เพิ่มขึ้น, คุณภาพสินเชื่อที่ลดลง
ขณะที่ หุ้น บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ที่เข้าจดทะเบียนวันที่ 20 ก.พ. รอลุ้นกันว่าจะหมู่หรือจ่า หุ้นดีแต่เข้ามาในภาวะตลาดไม่ดี แถมค้าปลีกยังได้รับผลกระทบจากไวรัส Covid-19 ด้วย ท่ามกลางที่เศรษฐกิจในประเทศ กำลังซบเซา
ล่าสุด CRC แจ้งผลการดำเนินงาน ไตรมาส 3 มีกำไร 1,385.12 ล้านบาท ลดลง 4.87% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,456.13 ล้านบาท ส่วนงวดรวม 9 เดือน ปี 62 มีกำไรสุทธิ 4,652.51 ล้านบาท ลดลงหนักหน่วงเลยเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,028.52 ล้านบาท
ส่วนรายนี้ ยอมใจ CPALL แจ้งกำไรปี 62 ที่ 22,343.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.75% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 20,929.65 ล้านบาท!!
อินเด็กซ์ 51