เงาหุ้น : ลุยซื้อ LTF!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ธ.ค.62 ปิดที่ 1,579.03 จุด เพิ่มขึ้น 6.03 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 28,380.38 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 940.49 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด GPSC ปิด 85 บาท บวก 0.50 บาท, AOT ปิด 74.75 บาท บวก 0.75 บาท, GULF ปิด 164 บาท ลบ 0.50 บาท, KCE ปิด 25 บาท บวก 2.20 บาท และ SCB ปิด 119 บาท ลบ 0.50 บาท

หุ้นไทยบวกรับอานิสงส์เม็ดเงินซื้อหุ้นจากกองทุน LTF-RMF ที่ทยอยไหลเข้ามาลงทุน ประกอบกับแรงซื้อเก็งกำไรการทำ Window Dressing แม้มูลค่าการซื้อขายเบาบางจากการชะลอการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ

“วศิน วณิชย์วรนันต์” ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย เผยว่า วันที่ 30 ธ.ค.เป็นวันสุดท้ายที่สามารถลงทุนในกองทุน LTF เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนจากหุ้นไทยในระยะยาว โดยนับตั้งแต่ปี 63 เป็นต้นไป บลจ.กสิกรไทย ยังคงบริหารจัดการกองทุน LTF ทั้งหมด 8 กองทุนให้เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ที่กำหนดไว้

ส่วนปีหน้าที่จะมีกองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund : SSF) ขึ้นมาทดแทนกองทุน LTF ซึ่งบริษัทได้เตรียมความพร้อมที่จะจัดตั้งกองทุน SSF ให้สอดรับกับโครงสร้างใหม่ ที่เปิดกว้างด้านนโยบายการลงทุนให้สามารถลงทุนได้ในสินทรัพย์ทุกประเภททั้งตราสารหนี้ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ และกองทุนผสม เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนที่หลากหลาย และสามารถจัดพอร์ตให้ได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม

ส่วนกองทุน LTF ของ บลจ.กสิกรไทย ยังคงได้รับการดูแลจากผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญในการคัดสรรหุ้นไทยศักยภาพดี ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตามสถานการณ์ เพื่อให้กองทุนสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ จึงวางใจได้ว่ากองทุน LTF ของกสิกรไทย จะยังคงได้รับการบริหารจัดการอย่างดีเช่นเดิม

ดังนั้น ปีนี้จึงแนะนำให้ลงทุนในกองทุน LTF กันให้เต็มสิทธิ์ ภายใต้เงื่อนไข 15% ของเงินได้พึงประเมิน โดยแนะนำกองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาวปันผล (KDLTF) ที่เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทใหญ่ชั้นนำที่มีปัจจัยพื้นฐานดี กระจายในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม อีกทั้งยังมีการจ่ายปันผลสูงสุดเมื่อเทียบกับ LTF อื่นๆของกสิกรไทย

โดยกองทุน KDLTF มีการจ่ายปันผลมาต่อเนื่อง 12 ปี มากถึง 19 ครั้ง รวมเป็นเงิน 8.76 บาทต่อหน่วย!!

อินเด็กซ์ 51