ปรบมือรัวๆ ดัชนีหุ้นทะลัก 17.08 จุด

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ปรบมือรัวๆ ดัชนีหุ้นทะลัก 17.08 จุด

Date Time: 26 พ.ย. 2562 09:41 น.

Summary

  • ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นร้อนแรงมาปิดตลาดที่ระดับ 1,614.80 จุด บวก 17.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,419.83 ล้านบาท

Latest

เปิดพอร์ตหุ้น หมอบุญ วนาสิน จากผู้ก่อ THG เหลืออันดับที่ 11 สู่หมายจับฉ้อโกงกู้เงิน 8 พันล้าน

กองทุนแอลทีเอฟช่วยผลักดัน นักลงทุนรีบใช้สิทธิประโยชน์

ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นร้อนแรงมาปิดตลาดที่ระดับ 1,614.80 จุด บวก 17.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,419.83 ล้านบาท มีแรงเข้าซื้อเข้ามาหนาแน่นจากกองทุนประเทศ โดยซื้อสุทธิ 2,171.45 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,521.84 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 23.57 ล้านบาท รายย่อยขายสุทธิ 3,716.86 ล้านบาท เป็นผลจากการเข้าซื้อของกองทุน รวมหุ้นระยะยาว (LTF) และการเข้าซื้อของต่างชาติหุ้นดักหน้า ก่อนการประกาศดัชนี MSCI รอบใหม่จะมีผลบังคับใช้

ทั้งนี้ บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ในวันทำการที่เหลือของปีนี้ อีก 24 วันทำการ จะมีเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน LTF ไหลเข้ามาลงทุนซื้อหุ้นหนาแน่นคึกคัก เนื่องจากปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่กองทุน LTF ได้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษี จึงจะเห็นแรงซื้อที่เข้ามากระจุกตัวช่วงท้ายของปี สอดคล้องกับสถิติในอดีตที่แรงซื้อหุ้นจากกองทุน LTF กว่า 57.3% มักกระจุกตัวใน 2 เดือนสุดท้ายของปี และแรงซื้อที่จะสูงขึ้นทุกปี โดยปีที่ผ่านมาเป็นปีที่มียอดซื้อ LTF สูงสุดถึง 76,000 ล้านบาท และปี 2563-2564 จะไม่มีแรงขายจากกองทุน LTF ออกมา เพราะยังไม่ครบกำหนดการถือ
ครอง 7 ปีปฏิทิน ของการลงทุนที่ได้สิทธิภาษี ทำให้ผู้จัดการกองทุนไม่ต้องขายหุ้นออกมา เพื่อสำรองเม็ดเงินไว้รองรับการไถ่ถอน เช่นทุกๆปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ที่ซื้อ LTF ปี 2559 ครบกำหนด 7 ปี ขายได้ปี 2565

ล่าสุด วันที่ 11-21 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่กองทุนหรือนักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิหุ้นไทยออกมาทุกวัน มูลค่ารวม 15,500 ล้านบาท กดดันดัชนีหุ้นไทยลดลงถึง 40 จุด หรือ 2.4% แต่เริ่มเห็นการกลับมาซื้อสุทธิ เมื่อที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา 2,100 ล้านบาท จึงเชื่อว่ามีแรงซื้อจากสถาบันต่อเนื่อง ในช่วงที่เหลือของปีช่วยพยุงตลาด

เอเซียพลัส ระบุว่า สัปดาห์นี้ อาจเห็นรายละเอียดของกองทุนใหม่ ที่จะออกมาทดแทนกองทุน LTF โดยคาดว่ามีการขยายเวลาการถือครองจาก 7 ปี เป็น 10-15 ปี และกำหนดวงเงินลงทุนเมื่อรวมกับการลงทุนในกองทุนเพื่อการเกษียณอายุ (RMF) ต้องไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี หรือไม่เกิน 30% ของรายได้ ที่จะนำไปหักลดหย่อนภาษีได้เพื่อจูงใจให้คนรุ่นใหม่ ออมระยะยาวมากขึ้น คาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า

ขณะที่ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด ได้รายงานผลการดำเนินงานย้อนหลัง 5 ปี ของกองทุนที่ได้ผลตอบแทนสูงสุด เช่น กองทุน LTF ที่ได้ผลตอบแทนสูงสุด 5 อันดับแรก อาทิ กองทุนเปิดเคป 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ