พิษสงครามการค้า!!

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

พิษสงครามการค้า!!

Date Time: 15 พ.ค. 2562 05:01 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 พ.ค.62 ปิดที่ 1,633.84 จุด ลดลง 6.29 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 53,923.40 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,679.23 ล้านบาท

Latest

ก.ล.ต.กล่าวโทษผู้บริหารณุศาศิริ ทุจริตขายห้องชุดถูก ซื้อโรงแรมแพง ผ่องถ่ายเงินเข้ากระเป๋า


ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 พ.ค.62 ปิดที่ 1,633.84 จุด ลดลง 6.29 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 53,923.40 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,679.23 ล้านบาท

บล.ไทยพาณิชย์ ออกบทวิเคราะห์สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนระลอกใหม่ ต่อผลกระทบต่อตลาดหุ้นระบุว่า คําขู่ของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่จะขึ้นภาษีสินค้านําเข้าทั้งหมดจากจีนสร้างแรงกระเพื่อมต่อตลาดทั่วโลก เนื่องจากคาดว่าทั้งสองฝ่ายจะออกมาตรการทางการค้าแบบตาต่อตาฟันต่อฟันเกิดขึ้นอีกครั้ง และส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น ทั้งนี้ ณ 9 พ.ค.

ดัชนี S&P 500 ปรับลงมาแล้ว 2.2% ดัชนี A-shares ของจีน ลดลง 1.5% และ SET ลดลง 7.4% จากต้นสัปดาห์

แนวโน้มที่จะมีการยกเลิกการเจรจาส่งผลทําให้นักลงทุนหันไปเลือกซื้อสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากกว่า เช่น ตราสารหนี้รัฐบาลที่มีความน่าเชื่อถือสูง ในสมมติฐานกรณีหลักของเราซึ่งคาดว่าสินค้านําเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 25% เพียงชั่วคราว ซึ่งจะทําให้หุ้นไทยจะปรับตัวได้ดีกว่าตลาดอื่น

เพราะปรับขึ้นมาตั้งแต่ต้นปีนี้น้อยกว่าตลาดอื่นๆ โดยตั้งแต่ต้นปี 62 ถึงปัจจุบันหุ้นไทยปรับขึ้นมาแล้ว 5.8% เทียบกับ S&P ที่ 14.9% และตลาดหุ้นจีนที่ 16.0%

ช่วงที่เกิดสงครามการค้าครั้งก่อน (ตั้งแต่ 25 พ.ค.61 เมื่อ “ทรัมป์” ประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 5 หมื่นล้านดอลล์สหรัฐฯ) หุ้นไทยปรับตัวลง 8.6% ก่อนจะฟื้นตัวขึ้น เชื่อว่าครั้งนี้จะแตกต่างออกไป โดยคาดว่าดัชนีอาจปรับตัวลง 3-4% บนสมมติฐานที่ว่าการขึ้นภาษีนำเข้าเกิดขึ้นชั่วคราว, สหรัฐฯ และจีนมีทางเลือกในการใช้นโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหากจําเป็น และรัฐบาลไทยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2.2 หมื่นล้านบาท

เมื่อรวมปัจจัยทั้งหมดประกอบการพิจารณา เชื่อว่าดัชนีที่ 1,630 จุด (เทียบเท่ากับ Forward P/E 12 เดือน ที่ 14.6 เท่า) เป็นกรอบล่างของดัชนีระยะสั้น แต่หากเกิดกรณีเลวร้ายคือ สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% จากสินค้าจีนเพิ่มเติมอีก 3.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกินเวลายาว 1 ปี ค่า Forward P/E อาจตกลงไปอยู่ที่ตํ่ากว่าค่าเฉลี่ยที่ 14.1 เท่า

หรือกรณีเลวร้ายที่สุดค่าเฉลี่ย Forward P/E อาจตํ่ากว่าค่าเฉลี่ยที่ 13.5 เท่า ซึ่งมองว่าเป็นไปได้ยาก ดังนั้น จากการวิเคราะห์ทั้งจากปัจจัยพื้นฐานและเชิงเทคนิค แนะให้ลูกค้าซื้อหุ้นถ้าดัชนีปรับตัวลงตํ่ากว่า 1,630 ในระยะสั้น!!

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ