บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ทิศทางหุ้นเดือน พ.ค.ระบุว่า มีปัจจัยบวกที่กระตุ้นการลงทุนคืิอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งล่าสุดของรัฐบาล!!
และกรณีน้ำหนักหุ้นไทยในดัชนี MSCI ที่เพิ่มขึ้นเป็น 2.8%
จาก 2.3% หลัง MSCI ให้นำ NVDR มาคำนวณใน MSCI EM Index และอาจมีหุ้นไทยเข้าไปคำนวณเพิ่มจาก MSCI Rebalancing มีผลปลาย พ.ค.62
นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำทั่วโลก แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯและจีนจะดีขึ้น ซึ่งดอกเบี้ยต่ำเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นปันผลสูง และกองทุนรวมและกอง REIT อสังหาริมทรัพย์
รวมทั้งการเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯที่มีความคืบหน้า
ในทางที่ดี คาดว่าจะบรรลุข้อตกลงและลงนามกันใน มิ.ย.นี้ ซึ่งจะช่วยให้บรรยากาศการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศดีขึ้น
ส่วนปัจจัยเสี่ยงหรือปัจจัยความไม่แน่นอนของหุ้นไทยนั้น คือ ติดตามข้อสรุปการนับคะแนนการเลือกตั้ง และสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ยังไม่มีความชัดเจนจนกดดันความเชื่อมั่นนักลงทุน
และประเด็นภาระการตั้งสำรองผลตอบแทนพนักงานตามกฎหมายใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งในไตรมาส 1-2 คาดว่า โดยรวมแล้วจะอยู่ที่ 2.5-3 หมื่นล้านบาท ราว 2-3% ของกำไร บจ.ในตลาด ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังยังปรับลดจีดีพีปี 62 ลง เป็น 3.8% จากเดิม 4% สะท้อนคาดการณ์ส่งออกโตน้อยลงเป็น 3.4% จากคาดการณ์เดิม 4.5% ขณะที่หนี้สินภาคครัวเรือนไทยที่อยู่ในระดับสูง เป็นผลลบต่ออุตสาหกรรมที่ใช้
แรงงานมาก เช่น ค้าปลีก ท่องเที่ยว โรงแรม ที่พักอาศัย และรับเหมาก่อสร้าง
ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรตลาดหุ้นไทยงวดไตรมาส 1 จะหดตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพราะฐานกำไรไตรมาส 1 ปี 61 สูงถึง
2.9 แสนล้านบาท แต่โตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เพราะกำไรไตรมาส 4 ปี 61 มีฐานที่ต่ำ เนื่องจากมีการขาดทุนสต๊อกจำนวนมาก!!
เลือกหุ้น Stock Picks ตามธีมการลงทุนเดือน พ.ค.นี้ ดังนี้ ธีม high Dividend Yield Play คือหุ้น KKP–HREIT–WHART– JASIF ธีม Defensive Play แนะนำหุ้น CPALL–BEM–RJH–GPSC ธีม Earnings Play หุ้น RJH–TU–GFPT–SVI และธีม Investment cycle Play หุ้น AMATA STEC.
อินเด็กซ์ 51