ทิศทางหุ้นไทยสัปดาห์นี้ บล.เออีซีระบุว่ามีโอกาสพักฐานต่อหลัง Consensus ปรับลดประมาณการ EPS ปีนี้ลง
โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่า เมื่อต้นปี EPS ปี 62 อยู่ที่ 115.16 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 111.26 บาท หรือลดลง 3.39% YTD
บวกกับนักลงทุนต่างชาติที่ขายหุ้นติดต่อกัน 6 วันทำการมูลค่ารวม 9,854.8 ล้านบาท ทำให้มองว่าดัชนีมีโอกาสหลุดแนวรับที่ระดับ 1,630 จุด และมีโอกาสลงไปแนวรับถัดไปที่ 1,600 จุด ดังนั้นแนะกลยุทธ์การลงทุนให้ลดพอร์ต เพื่อถือเงินสดบางส่วน และทยอยซื้อกลับใน 3 กลุ่มหุ้นเด่น เมื่อดัชนีปรับตัวลงมาในกรอบแนวรับ
โดยแนะนำลงทุนหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจในช่วงที่ตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่ง และไม่ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ และธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยอิงกับหุ้นที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside โดยแนะนำหุ้น EKH, LPH, RJH และ BCH
กลุ่มจำนำทะเบียนรถ อาทิ SAWAD, MTC และ AMANAH เนื่องจากรับผลบวกจากกฎระเบียบที่มีความชัดเจนขึ้น คือผู้ประกอบการต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท, ไม่กำหนดวงเงินสินเชื่อขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้ และอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 28%
และหุ้นกลุ่มสุดท้ายที่แนะนำ คือหุ้นที่มีความโดดเด่นจากการคาดการณ์งบปี 61 โดยเฉพาะกำไร ที่เติบโต YoY และ Consensus ยังคาดว่าจะโตต่อในปี 62 แนะนำ JMT, PLANB และ COM7
ฝ่ายวิจัยยังมองว่า สัปดาห์นี้จะลดมุมมองเชิงลบลงจากการเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่กรุงปักกิ่งมีความคืบหน้ามากขึ้น แต่ยังไม่ได้ข้อยุติและจะมีการเจรจากันอีกครั้งสัปดาห์นี้ ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังพิจารณาเลื่อนกำหนดการขึ้นภาษีสินค้าออกไปอีก 60 วัน เพื่อให้มีเวลาในการเจรจามากขึ้น
ขณะที่ บล.โกลเบล็ก แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มสื่อโฆษณา แนะนำ VGI, MACO และ PLANB, หุ้นกลุ่มค้าปลีก แนะนำ CPALL, MAKRO และ BJC ส่วน TKS ได้งานพิมพ์บัตรเลือกตั้ง และหุ้น MAI ที่ประเมินว่าจะได้รับประโยชน์จากการเลือกตั้ง ได้แก่ TACC, LIT และ FSMART
รวมทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวกลับสู่ปกติใน 1Q62 แนะนำ AOT, CENTEL และ ERW!!
อินเด็กซ์ 51